บาส-ปอป้อ ผ่ายเจ้าบ้าน โดนยูตะ-อลิสะ พลิกแซงสองเกมรวด

  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2566 การแข่งขันแบดมินตัน ไดฮัทสุ เจแปนโอเพ่น 2023 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รอบชิงชนะเลิศ ประเภทคู่ผสม บาส เดชาพล กับ ปอป้อ ทรัพย์สิรี คู่มือวางอันดับ2 ของรายการ คู่ผสมอันดับ3ของโลก พบกับ ยูตะ วาตานาเบ้ กับ อลิสะ ฮิกาชิโนะ คู่ผสมอันดับ2 ของโลกจากญี่ปุ่นที่เอาชนะ เจิ้ง ซีเว่ย กับ หวง หย่าเฉียง คู่ผสมอันดับ1 ของโลกจากประเทศจีนมาได้ 2-0เกม ในรอบรองชนะเลิศ

.

.

ในช่วงครึ่งเกมแรก เป็นคู่ผสมจากแดนปลาดิบทำได้ดีกว่าชัดเจน ขึ้นนำห่าง 11-5 แต่บาส-ปอป้อ แก้เกมจนไล่ตามมาเสมอกันที่คะแนน 14-14 ก่อนจะคุมเกมแซงเอาชนะไปอย่างสุดมัน 21-17 คะแนน

.

เกมที่สอง ยูตะ-อลิสะ ออกสตาร์ทได้ดี ผิดกับ บาส-ปอป้อ ที่เจอความผิดพลาดเล่นงาน ทำให้เป็นฝ่ายตามหลัง 3-11คะแนน หลังพักครึ่งเกม บาส-ปอป้อเร่งเครื่องขึ้นมาไล่ตามจนเหลือ2แต้มแต่สุดท้ายแผ่วช่วงปลายทำให้คู่ญี่ปุ่นปิดเกมไปได้ด้วยสกอร์ 21-16

.

เกมตัดสิน ทั้งสองฝั่งต่างผลัดกันทำแต้มอย่างสูสี จบครึ่งเกมแรก คู่ญี่ปุ่นออกนำ11-9 ยูตะ-ฮิกาชิโนะ นำฉีกไป4แต้มรวดเพื่อรักษาระยะห่าง เป็น15-9 แล้วปิดเกมไปด้วยสกอร์ 21-15 ทำให้บาส-ปอป้อพลาดท่าในการป้องกันแชมป์ จบอันดับที่ 2 ในศึกเจแปน โอเพ่นในครั้งนี้

 

ขอขอบคุณ Credit: Siamsport

ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทย รับเงินอัดฉีดซีเกมส์ กว่า 6 ล้านบาท

ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทย รวมทั้งผู้บริหารและ ทีมงาน เข้ารับเงินรางวัลอัดฉีด หลังทำศึกซีเกมส์ครั้งที่ 32 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ณ ประเทศกัมพูชา โดยทัพนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ทำผลงานคว้า 2เหรียญทอง จากทีมหญิง และ หญิงเดี่ยว, 2เหรียญเงิน จากหญิงเดี่ยวและชายคู่, 3เหรียญทองแดง จากคู่ผสมและทีมชาย เป็นจำนวนเงิน 6,825,000 บาท

.

.

พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นประธานในพิธี จัดเลี้ยงฉลองชัย มอบเงินรางวัล และร่วมแสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาทีมชาติไทย

.

โดยมีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ , พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร อุปนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย รวมไปถึงทัพนักกีฬาแบดมินตัน อาทิเช่น เกน ลักษิกา กัณละหหะ, จ๋อมแจ๋ม ผไทมาส เหมือนวงศ์, มิกซ์ รัชพล มรรคศศิธร, ไตเติ้ล รุษฐานุภัค อูปทอง และทีมงานโค้ช โค้ชบอล ปฏิพัทธ์ ฉลาดแหลม ได้เข้าร่วมงานในวันนี้

 

แหล่งที่มา: Siamsport

สรุปผลการแข่งขันแบดมินตันรายการโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023

สรุปผลการแข่งขันแบดมินตันรายการโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ที่จบลงไปเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 4 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยที่รายการนี้มีความสำคัญคือเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วย
.
โดยมีผลการแข่งขันแต่ละประเภทในรอบชิงชนะเลิศเป็นดังนี้
.
หญิงเดี่ยว
อัน เซยอง (เกาหลีใต้) ชนะ เหอ ปินเจียว (จีน) 2-0 เกม 21-10 , 21-19
.
เกมแรกเป็น อัน เซยอง ชนะไป 21-10 อย่างไม่ยากนักเพราะ เหอ ปินเจียว มีการตีเสียเองและเสียเปรียบในเรื่องรูปเกมส์พอสมควร และในเกมที่ 2 แม้ เหอ ปินเจียว จะปรับรูปเกมส์มาดีขึ้นทำให้เกมส์นี้ค่อนข้างสูสีกัน แต่ในจังหวะสำคัญกลับเป็น อัน เซยอง ที่ทำได้ดีกว่า จบเกมเป็น อัน เซยอง ที่เอาชนะไปได้อีกด้วยสกอร์ 21-19 คว้าแชมป์ไปครอง
.
.
คู่ผสม
คิม วันโฮ & จอง นาอึน (เกาหลีใต้) ชนะ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ & ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ไทย) 2-1 เกม 11-21 , 21-19 , 22-20
.
เกมแรกเป็นคู่จากไทยชนะไปก่อน 11-21 อย่างสบายๆเพราะคู่ของเบาสและปอป้อใช้ความเร็วและความหนักหน่วงที่เหนือกว่าปิดเกมส์แรกไป เกมส์ที่ 2 คู่เกาหลีใต้มีการมีการปรับรูปเกมส์มาและมีความเหนียวแน่นมาก ส่งผลให้คู่เกาหลีใต้ปิดเกมส์นี้ชนะเราไปแบบสูสี 21-19 ส่งผลให้มาเสมอกันที่ 1 – 1 เกมส์ และในเกมตัดสินทั้ง 2 ทีมเล่นได้ค่อนข้างสูสีกันกันมาก ต่างฝ่ายต่างผลัดกันขึ้นนำเป็นช่วงๆ จนต้องเล่นดิวกัน และเป็นคู่เกาหลีใต้ที่นิ่งกว่า จบเกมเป็นคู่เกาหลีใต้ที่เอาชนะไปได้อีกด้วยสกอร์ 22-20 คว้าแชมป์ไปครอง
.
.
ชายคู่
เหลียง เว่ยเก็ง & หวัง ชาง (จีน) ชนะ มูฮัมหมัด ฟิครี & บากัส มัวลาน่า (อินโดนีเซีย) 2-0 เกม 21-10 , 21-15
.
เกมแรกเป็นคู่จากจีนออกนำไปก่อน 21-10 อย่างไม่ยากนักเพราะได้เปรียบเรื่องความเร็วและความหนัก และในเกมที่ 2 ก็ยังเป็นคู่จากจีนทำได้ดีกว่า จบเกมเป็นคู่จากจีนที่เอาชนะคู่จากอินโดนีเซีย อดีตเเชมป์ออลองเเลนด์ไปได้อีกด้วยสกอร์ 21-15 คว้าแชมป์ไปครอง
.
.
ชายเดี่ยว
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (ไทย) ชนะ ลี ชุคยิว (ฮ่องกง) 2-0 เกม 21-12 , 21-10
.
เกมแรกเป็น กุลวุฒิ ที่วันนี้มาเปิดเกมส์บุกและมีลูกรับแล้วสวนกลับที่ดีมากเอาชนะไป 21-10 และในเกมที่ 2 รูปเกมส์ยังคงเป็นไปแบบในเกมส์แรก แม้ว่า ลี ชุคยิว จะพยายามแก้เกมส์มาแต่เจ้าตัวก็ผิดพลาดเองง่ายขึ้นอีก จบเกมเป็นกุลวุฒิ เอาชนะไปได้อีกด้วยสกอร์ 21-10 คว้าแชมป์ไปครองแบบไม่ยากนัก
.
.
หญิงคู่
คิม โซยัง & กอง ฮียอง (เกาหลีใต้) ชนะ เบญญาภา & นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด (ไทย) 2-0 เกม 21-13 , 21-17
.
เกมแรกเป็นคู่เกาหลีใต้ที่อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่า โดยที่ คิม โซยัง เข้าประกบทำเกมส์ที่หน้าเน็ตจนคู่สองพี่น้องจากไทยเล่นไม่ออก ส่งผลให้คู่เกาหลีใต้ชนะไปก่อน 21-13 และในเกมที่ 2 เปิดเกมส์มาคู่เกาหลีขึ้นยังทำเกมส์ได้เหนือกว่านำไปก่อน แต่คู่สองพี่น้องจากไทยมีการปรับรูปเกมส์ที่ดีขึ้นมาเปิดเกมส์บุกได้มากขึ้น แต่สุดท้ายยังสู้ประสบการณ์และความแน่นอนของคู่เกาหลีไม่ได้ แพ้ไป 17-21 จบเกมเป็นคู่เกาหลีใต้คว้าแชมป์ไปครอง
.

การแข่งขันต้องมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ ดูแลใจอย่างไรเมื่อไม่เป็นอย่างหวัง

นักกีฬามาคู่กับความสมหวังและผิดหวัง สลับกันไปไม่ว่าจะกีฬาประเภทไหน ย่อมมีผู้แพ้และผู้ชนะเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้แมตช์สำคัญที่กระทบต่อผลงานของทีม หรือการพลาดโอกาสได้รับการคัดเลือกอาจทำให้นักกีฬารู้สึกท้อแท้
.
วันนี้เรามีแนวทางในการช่วยให้นักกีฬารับมือกับความเครียดและก้าวผ่านความผิดหวังไปเพื่อกลับมาให้ได้ดีกว่าเดิม
.
1. ยอมรับความรู้สึก (Self-Awareness)
ขั้นตอนแรกในการจัดการกับความผิดหวังคือการยอมรับในความผิดหวัง เมื่อไม่ได้ตามเป้าหมายย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเสียใจ หงุดหงิด หรือแม้แต่โกรธหลังจากความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญ การปฏิเสธความรู้สึกหรือพยายามซ่อนความรู้สึกเอาไว้เป็นระยะเวลานานย่อมเป็นการสะสมความคิดลบ ซึ่งอาจนำไปสู่ความกลัวได้ ดังนั้นจงปล่อยให้ตัวเองรับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น ทำความเข้าใจกับตัวเอง และยอมรับว่าความรู้สึกเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
2. สะท้อนความคิด (Self-reflection)
เมื่อรับรู้และยอมรับความรู้สึกของตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญถัดไปคือการไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น การไตร่ตรองตนเองช่วยในการทำความเข้าใจสถานการณ์ สื่งที่เรากระทำไป และผลที่ตามมา โดยต้องมองสถานการณ์อย่างเป็นกลางมากที่สุด อย่าลืมถามตัวเองว่า: ได้ทำทุกอย่างที่ทำได้หรือยัง? มีปัจจัยภายนอกใด ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมหรือไม่? ได้เรียนรู้อะไรได้บ้างจากประสบการณ์นี้? การสะท้อนและไตร่ตรองความคิดจะช่วยส่งเสริมการเติบโตและช่วยตีกรอบความผิดหวังให้เป็นบันไดก้าวขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สูงขึ้น
.
3. แรงสนับสนุนและกำลังใจ (Support)
หนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการรับมือกับความผิดหวังคือการสนับสนุนและกำลังใจจากเพื่อนร่วมทีม ครอบครัว โค้ช และเแฟนคลับที่เห็นในความสามารถและเชื่อในตัวเรา เป็นส่วนสำคัญในการรับมือกับความรู้สึกเสียใจและท้อแท้ได้ ที่สำคัญบุคคลเหล่านี้ยังสามารถเป็นผู้ช่วยสะท้อนความคิดให้อีกด้วย
.
4. ตั้งเป้าหมายใหม่ (Set new goals)
หลังจากประสบความผิดหวังครั้งใหญ่ สิ่งสำคัญคือต้องโฟกัสพลังงานใหม่และตั้งเป้าหมายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ระยะสั้นหรือความทะเยอทะยานในระยะยาว การมีบางสิ่งที่มุ่งมั่นสามารถช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคุณจากความผิดหวังในอดีตและกระตุ้นให้คุณผลักดันต่อไป
.
5. ฝึกความยืดหยุ่น (Resilience)
ความยืดหยุ่นทางความคิดคือความสามารถในการฟื้นตัวจากความผิดหวัง และเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬาทุกคน เราสามารถฝึกฝนความยืดหยุ่นทางจิตใจโดยการรักษาทัศนคติเชิงบวก มีสมาธิกับการฝึกซ้อมและอยู่กับปัจจุบัน มองอุปสรรคเป็นโอกาสในการเติบโตและจำไว้ว่า ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ที่กำหนดชะตาคุณ แต่อยู่ที่คุณจะก้าวผ่านมันได้อย่างไร
.
6. การดูแลตนเอง (Self-care)
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพจิตที่ดีก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรพิจารณาเทคนิคการเจริญสติ เช่น การทำสมาธิหรือโยคะ เพื่อช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งและลดความเครียดได้
.
ตัวอย่างนี้สามารถดึงมาจากชีวิตของ Michael Jordan ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเก็ตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล หลังจากถูกตัดออกจากทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนมัธยมปลาย เขาอาจถูกความผิดหวังครอบงำได้ง่ายๆ แต่เขากลับใช้ความพ่ายแพ้นั้นเป็นแรงจูงใจให้ทำงานให้หนักขึ้น เขาเคยกล่าวไว้ว่า “ฉันล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในชีวิต และนั่นคือเหตุผลที่ฉันประสบความสำเร็จ”
.
ความพ่ายแพ้และความผิดหวัง แม้จะเจ็บปวด(มาก) แต่ก็เป็นส่วนสำคัญในการเดินทางของนักกีฬา ความกล้าหาญ ความอดทน ความมุ่งมั่น และการเรียนรู้ที่จะจัดการและเอาชนะความผิดหวังเป็นทักษะที่ไม่เพียงช่วยยกระดับอาชีพการงานด้านกีฬาของเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ส่วนอื่นๆของชีวิตอีกด้วย
.
อ้างอิง:
https://truesport.org/mental…/disappointments-in-sport/

.

ตีแบดมากี่ปี ฝีมือก็มีอยู่เท่าเดิม

เชื่อว่าหลายคนที่เป็นสายตีก๊วน หรือ นักแบดมือใหม่ เมื่อเล่นมาซักระยะหนึ่งจะเจอกับคำถามที่ว่า “ทำไมตีมาตั้งนานแล้ว ไม่เก่งขึ้นซักที”
.
เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้เรา ยังย่ำอยู่ที่เดิม ?
1. ตีกับมือเดิม ๆ จับทางได้ แค่ขยับก็รู้ไต๋กันหมดแล้ว
คงมีไม่น้อยที่กลุ่มเพื่อน ๆ กันมักจะได้ตีกันเอง และฝีมือก็มักจะได้อยู่ในระดับเดียวกัน จึงทำให้ไม่ได้พัฒนา เช่น ความเร็วของการขยับ, Speed ของการตีลูก หรือรูปแบบการเล่นใหม่ ๆ เป็นต้น
.
2. ตีแต่กับมือที่ต่ำกว่า
แน่นอนว่าถ้าอยากจะเก่งก็ต้องเจอกับคนเก่ง ๆ (เหนือฟ้ายังมีฟ้า.. เหนือลีชองเหว่ยยังมีหลินตัน 😂) สิ่งที่เราจะได้เมื่อได้ตีกับคนเก่ง ๆ คือ สังเกตวิธีการออกลูก, ฝึก speed ที่เร็วขึ้นทั้งการขยับ และการตี
.
แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ควรตีกับมือที่ต่ำว่าคุณ เพียงแต่ การตีกับมือที่ต่ำกว่า คุณก็สามารถตั้งเป้าหมายในการฝึกระหว่างการตีเกมส์ได้เช่นกัน เช่น ปล่อยให้ฝั่งตรงข้ามเป็นฝ่ายบุก และคุณและพาร์ทเนอร์นั้นเป็นฝ่ายรับ เพื่อทำอย่างไรให้ฝั่งคู่ต่อสู้นั้นทำการเปิดเกมส์บุกได้ยากขึ้น
.
3. ขาดการฝึกฝน และวัดผลสัมฤทธิ์
ทำไมการฝึกซ้อมแบดมินตัน ถึงจำเป็นสำหรับผู้เล่นที่อยากพัฒนาตนเอง ?
คำตอบก็คือ เพราะการฝึกซ้อมนั้น จะทำให้เราได้ตีลูกเดิมๆ ซ้ำ ๆ จนทำให้สมอง และกล้ามเนื้อของเรา ทำการจดจำอัตโนมัติ แล้วจึงนำสิ่งที่ฝึกซ้อมในแต่ละลูกนั้นไปปรับใช้ในการตีเกมส์
.
การฝึกฝนไม่ใช่เพียงการตีแรง ๆ ไปมา แต่รวมถึงการฝึกประสาทสัมผัส ทำอย่างไรให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักมือ และทิศทางให้ไปในจุดที่เราต้องการได้
.
สุดท้ายแล้ว การวัดพัฒนาการของแต่ละคนนั้น จะมี Curve ของพัฒนาการที่แตกต่างกัน แม้ผู้เล่นบางคนจะเริ่มฝึกพร้อมกันก็ตาม ยกตัวอย่างสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนนั้น ก็อาจจะมีพื้นฐานของการเล่นกีฬาที่แตกต่างกัน หรือแม้กระทั่งสำหรับเด็ก เด็กบางคนก็อาจจะมีพรสวรรค์ด้านกีฬาที่แตกต่างกันอีก
.
ฉะนั้นหากอยากจะวัดพัฒนาการ ไม่ควรเทียบกับผู้อื่น ควรวัดพัฒนาการที่ตนเอง ตามเป้าหมายของการฝึกไปที่ละขั้นตอน
.
สนใจเรียนคอร์สปรับพื้นฐานกับจองนาว จากกูรูในวงการแบดมินตัน สนใจสามารถคอมเม้นท์ไว้ใต้โพสต์นี้ได้เลยนะคะ
.

รองช้ำ ไม่เป็นไม่รู้ สาเหตุจากรองเท้าและ Insole อุปกรณ์สำคัญที่ทุกคนมองข้าม

 

รองช้ำ ไม่เป็นไม่รู้ สาเหตุจากรองเท้าและ Insole อุปกรณ์สำคัญที่ทุกคนมองข้าม
.
นักแบดหลายๆ คนทั้งมือใหม่และมือประจำ อาจจะเคยมีอาการ “ปวดส้นเท้า” หลังตื่นนอนเมื่อลงน้ำหนัก โดยเฉพาะใครที่เพิ่งตีแบดหนักๆ มาเมื่อคืน อาจจะพบกับความเจ็บ เหมือนเข็มทิ่มตอนเดิน แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อได้เดิน หรือ วิ่งไประยะหนึ่ง
.
อาการเหล่านี้เกิดจากการอักเสบบริเวณพังพืดใต้ฝ่าเท้า ซึ่งเราจะรู้จักกันว่า “โรครองช้ำ” อาการมักจะเป็นๆ หายๆ ดีขึ้นเมื่อได้ขยับ และกลับมาปวดอีกเมื่อหยุดการเคลื่อนไหว และสำหรับบางคนที่เป็นหนัก อาจจะถึงขั้นปวดตลอดเวลา
.
โดยทั่วไปสาเหตุของการรองช้ำเกิดจากการใช้งานที่มากเกินไป และ/หรือ นานเกินไป รวมถึงน้ำหนักตัวมาก ทำให้เท้าต้องรับแรงกระแทกที่มากขึ้น ซึ่งนอกจากเท้าแล้ว หัวเข่าจะได้รับการกระแทกที่มากขึ้นเช่นกัน แต่สำหรับนักแบดอาจมีปัจจัยเพิ่มเติมเข้ามา:
♦️ ฟุตเวิร์คไม่ถูกต้อง – การเคลื่อนไหวให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากในกีฬาแบดมินตัน นักกีฬาต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปทั้งด้านหน้า ด้านหลังและด้านข้างอยู่ตลอดเวลา การลงน้ำหนักที่ไม่ถูกต้องอาจสร้างแรงกระแทกให้จุดใดจุดหนึ่งของเท้ามากเกินไป เช่น การลงด้วยหน้าเท้าซึ่งทำให้เสี่ยงต่อข้อเท้าพลิก นอกจากนี้องศาของการวางเท้าขณะเข้าไปรับลูกหน้าควรเป็นทิศทางเดียวกับองศาของไม้เพื่อลดการบิดและการลงน้ำหนักผิดจุด
♦️ รองเท้าไม่เหมาะกับเท้า – ฝ่าเท้าของแต่ละคนมีรูปทรงที่ไม่เเหมือนกัน ทำให้ไม่สามารถการกระจายน้ำหนักบนฝ่าเท้าเวลาเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากโครงสร้างเท้าที่มีอุ้งเท้าน้อยหรือมากกว่าปกติ เช่น เท้าแบนส่งผลให้มีการลงน้ำหนักด้านในฝ่าเท้ามากกว่าปกติ เป็นสาเหตุของอาการปวดเข่าด้านใน หรือ เท้าสูงมากอาจทำให้พังผืด และกล้ามเนื้อฝ่าเท้าตึงมาก เมื่อลงน้ำหนักซ้ำๆ อาจทำให้เกิดรองช้ำได้ง่าย เป็นต้น
✅การรักษารองช้ำ
– ประคบเย็น เมื่อมีการอักเสบ และลดการใช้งานเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
– กายภาพบำบัด การออกกำลังกายเท้าเพื่อเพิ่มความมั่นคงของฝ่าเท้าให้การเคลื่อนไหวสมดุลมากขึ้น และการยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อน่องคลายตัว และเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
– การเสริมแผ่นรองเท้าสำหรับคนที่เป็นเท้าแบน หรือเท้าสูงช่วยส่งเสริมให้เท้าอยู่แนวปกติมากขึ้นได้ และลดอาการเจ็บได้มากขึ้น
– การปรับฟุตเวิร์ค การลงน้ำหนักเท้าให้ถูกต้อง
หลายครั้งที่มักจะเกิดอาการบาดเจ็บและจึงหาวิธีแก้ไขทีหลัง
Jongnow อยากให้ลองแนะนำหารองเท้าและแผ่นรองรองเท้าดีๆ มาใส่ เพื่อช่วยซัพพอร์ตและลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บ ก่อนที่จะอดเล่นกีฬาที่เพื่อน ๆ รักไปอีกนานค่ะ

5 นิสัยแย่ๆในสนามแบดมินตัน

ทำไมเธอตีแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้! เสียงแว่วมาตลอดเวลาเหมือนมีผู้กับกับอยู่ในสนามแบด พฤติกรรมที่อาจจะทำให้คู่หูหมดกำลังใจและไม่อยากตี !

เมื่อใดที่เราได้ไปเริ่มตีแบดกับเพื่อน ๆ ที่อาจจะสนิทกัน หรือไม่สนิทคุ้นเคยกัน เริ่มแรกเรามักจะเห็นความเกรงใจซึ่งกันและกัน หรือการให้อภัยกัน

แต่ยิ่งนานวันเข้า ความเกรงใจและให้เกียรติกันในสนามกลับน้อยลง จนทำให้หลายคนเบื่อการตีแบดไปโดยปริยาย

มีเพื่อนคนไหนเคยเจอแบบนี้ แชร์ความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะคะ

1. โทษทุกลูกเป็นความผิดของเพื่อน

แน่นอนล่ะ ว่าไม่มีใครตั้งใจอยากตีไม่ดี, ตีออก, ตีติดตาข่าย
สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เพื่อนของของเราสนุกไปด้วยกันกับเกมกีฬา

คือ การให้กำลังใจกัน “ไม่เป็นไร เอาใหม่นะ”
หรือเทคนิคที่จะดีกว่าหากทำแบบนี้นะ! นี่เป็นตัวอย่างการพูด และการใช้น้ำเสียงที่ดี ในการเล่นเกมเพื่อมิตรภาพกัน

 

2. ถ้าเล่นเพื่อความสนุกสนาน ไม่ควรเทศนาสั่งสอนระหว่างเกมการเล่น เพราะอาจจะทำให้คู่หูรู้สึกกดดันและอึดอัดได้ เหมือนกับเมื่อเวลาที่เรามีครูระเบียบที่คอยจี้จุด, จับผิดตลอดเวลา แน่นอนว่าความคิดสร้างสรรค์ หรือความตั้งใจมันอาจจะลดลงได้ ส่งผลทำให้การเล่นไม่สนุกสนาน

แต่ก็มีข้อแม้สำหรับเรื่องนี้นะคะ หากต้องการพัฒนาไปพร้อมกับคู่หู อันนี้ก็จะเป็นอีกประเด็น แต่สิ่งสำคัญคือ หลักการและเหตุผลจากผู้รู้ให้อธิบายอย่างกระจ่างมิฉะนั้น เชื่อเลยว่าเถียงกันไม่มีวันจบสิ้น

 

3. แสดงอารมณ์และสีหน้าที่เบื่อหน่ายใส่คู่หูเมื่อตีผิดพลาด

แม้จะเป็นความไม่ตั้งใจในขณะเล่น.. แต่มันก็มักจะบั่นทอนความรู้สึกของเพื่อนคู่หูด้วยกันไม่ใช่น้อย เพราะเมื่อเราอยู่ในสนาม เราควรหันมาใช้กีฬาในการสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน

 

4. เมื่อเพื่อนให้ใจเต็มร้อยในสนาม แต่คุณกลับไม่มี Spirit เลย

เคยไหมที่คุณรู้สึกไม่มีใจอยากจะลงไปเล่นเกมนี้เลย แต่คู่ของคุณนั้นมาเต็ม 100% ที่จะอยากลงมาสนุก เพราะฉะนั้นการลงไปตีในสนามทุกครั้ง ควรเคารพความตั้งใจของคู่หูด้วยเช่นกัน เพราะถ้าหากไม่พร้อมที่จะลงเล่น ไม่ควรเดินลงในสนาม เพราะอาจจะทำให้คู่หูของคุณบั่นทอนความรู้สึกระหว่างเล่นได้

 

5. เขี่ยลูก หรือ ตีลูก แย่ ๆ กลับไปให้เพื่อน

ไม่ว่าจะส่งลูกให้เพื่อน ฝั่งเดียวกัน หรือฝั่งตรงกันข้าม “วิธีการส่งลูก” นั้นสำคัญกับเรื่องมารยาทในสนามแบด

ทำนองเดียวกัน หากเราเจอเพื่อน เก็บลูกมาใส่ไม้แบดมินตันให้เรา กับ พฤติกรรมเขี่ยลูกมาให้แบบส่ง ๆ เราคงไม่มีใครอยากเจอกับวิธีหลังใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นแล้ว หากเราต้องการสร้างสิ่งแวดล้อมดี ๆ ทุกคนมีรอยยิ้มในสนาม มารยาทการส่งลูกให้กันก็เป็นสิ่งที่สำคัญมิน้อย

 

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ อยากให้กีฬาแบดมินตัน เป็นกีฬาที่สามารถเล่นเพื่อสร้างมิตรภาพได้ทุกระดับมือ คนเริ่มเล่น ได้มีโอกาสในการพัฒนาและฝึกฝนด้วยการสอนที่ถูกวิธี ลองคิดว่า แม้จะมือใหม่ แต่ถ้าเพื่อนของเรามีใจที่อยากจะจับไม้แบด ออกกำลังกายแล้ว เรามาให้กำลังใจคนข้าง ๆ เรากันเถอะ ! แล้วมุมมองการเล่นแบดมินตันของเราทุกคนจะมีแต่ความสนุกในทุกครั้งที่ได้ลงไปเล่น

การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร มีผลต่อไม้ และทำให้เสียงดังขึ้นจริงหรือ ?

การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร มีผลต่อไม้ และทำให้เสียงดังขึ้นจริงหรือ ?
ถามกันมาเยอะมาก ๆ ประเด็นเรื่องของการขึ้นเอ็น 2 แบบ ขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร /ไม่เว้นโปร แบบไหนดีกว่ากัน ?
.
Jongnow ก็เลยได้คำปรึกษาจากคุณแชมป์ ร้าน Mr.C Sport Mr.C Sports คุณแชมป์เป็นหนึ่งในทีมงานที่ได้รับเชิญให้ขึ้นเอ็นให้กับนักกีฬาระดับโลกหลายคนในศึก Thomas & Uber Cup 2022 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยที่ผ่านมา

การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร คือการดึงเอ็นเส้นแนวนอนเส้นสุดท้าย ลงมา 1 ช่องตาไก่
มีประวัติมาจากไม้ยี่ห้อ Pro KENNEX รุ่นหนึ่ง ซึ่งเวลาขึ้นจะบังคับให้ต้องเว้นช่องด้านล่างเสมอ คนจึงติดปากเรียกกันต่อมาว่า “เว้นโปร” มาจากชื่อของโปร เคนเน็ก นั่นเอง จากนั้นก็เลยได้วิธีการขึ้นเอ็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น (พี่แชมป์บอกว่าต่างชาติจะไม่รู้จักการเว้นแบบนี้ เค้าจะงงว่าเว้นเพื่อ? 555555555) ><”
.
อย่างนักแบดระดับโลก 99% ก็ไม่เว้นกันค่ะ แต่ที่เราเห็นขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรก็จะมีแค่ Tai Tzu Ying ที่คุณพ่อจะเป็นผู้ขึ้นเอ็นให้แต่เป็นผู้เดียวเลย ยิ่งถ้ารายการไหนคุณพ่อไม่ได้ไปก็จะต้องพกไม้ไปเยอะซะหน่อย (เพราะชื่อใจในคุณพ่อ ฟิลลิ่งนี้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ)
.
คำถามยอดฮิตที่เกี่ยวกับการขึ้นเอ็น
Q : การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรมีผลกับอายุการใช้งานของไม้หรือไม่ ?
คำตอบคือ : ไม่มีผลกับเฟรมเลยแม้ว่าจะตีจนเอ็นขาด และกลัวไม่หักเพราะแรงตึงไม่เท่ากัน
ปกติบริเวณจุด T Joint ของใหม่แร็กเก็ต เป็นจุดที่จะแข็งแรงที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นการเว้นโปรไม่ได้ส่งผลต่อเฟรม

**เกร็ดเล็ก ๆ เอ็นขาดแบบไหนบอกอะไรได้บ้าง
– เอ็นขาดแนวนอน (ค่อนไปทางหัวไม้) อาจจะเกิดจากการตีแม่นมาก ๆ เข้า Sweet spot หรือโค้ชที่ปล่อยลูกบ่อย ๆ ก็อาจจะเกิดได้ (บางคนขาด3-5 ไม้ เมื่อนำมาเรียงกันจเห็นะขาดจุดเดียวกันทั้งหมด)
– เอ็นขาดแนวตั้ง แบ่งเป็น 2 กรณี
1.ใช้งานปกติ ตีจนเปื่อยหมดสภาพขาดตามอายุ
2. ขาดไวกว่าปกติ ส่วนมากอาจจะเกิดจากการตีแล้วแป๊กโดนบริเวณขอบเอ็น เนื่องจากขอบเอ็นที่ใกล้กับเฟรมด้านบนของไม้ จะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า โดยกรณีนี้เวลาขาด จะเห็นเหมือนเอ็นขาด 2 เส้นข้างกัน

Q : การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรทำให้เสียงดังกว่าหรือไม่ ?
ส่วนนี้คุณแชมป์คิดว่าไม่ได้มีผลที่ความดัง แต่จะเป็นโทนเสียงที่แตกต่างกันออกไปเท่านั้น เพราะจำนวนเส้นเอ็นเท่าเดิม เพียงแค่การเว้นโปรเพียงการขยับเอ็นเส้นสุดท้ายลงมา 1 ช่องตาไก่เท่านั้น (คล้ายเวลากดสายกีต้าร์)

** เกร็ดเล็ก ๆ เอ็นแบบไหนให้เสียงอย่างไร
– เอ็นเส้นใหญ่ ให้เสียงทุ้มแน่น เช่น BG65 (พอเอาเอ็นมาเคาะ ๆ จะเป็นเสียงโป๊ง ๆ …)
– เอ็น เส้นเล็ก เช่น BG66 Ultrimax เสียงจะแหลม คม (พอนำมาเคาะจะเป็น ตึ๊ง ตึ๊ง …)

***ถ้าถาม มองว่าเส้นใหญ่ ถ้าตีโดนเต็มๆ เสียงจะแน่น และสนั่นกว่า***
สุดท้ายนี้ขึ้นอยู่แต่ละความชื่นชอบของแต่ละบุคคลเลยค่ะ แต่ถ้าหากให้ทางคุณแชมป์แนะนำจะแนะนำให้ขึ้นเต็มแบบไม่เส้นโปรมากกว่าค่ะ ในเมื่อผู้ผลิตมีการทำการคิดค้นมาแล้ว เมื่อมีรูตาไก่ก็แนะนำให้ขึ้นให้ครบน่าจะดีที่สุดค่ะ
.
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณแชมป์ เจ้าของร้านขายอุปกรณ์แบดมินตัน หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถลองแวะเข้าไปชมและเลือกซื้อสินค้าได้เลยนะคะ ได้รับคำแนะนำอย่างดีเลยค่ะ Mr.C Sports

ไม้แบดมินตันราคาถูก VS ไม้แบดมินตันราคาแพง

หลายคนที่กำลังเริ่มเข้าวงการมาใหม่ ๆ คงมีความสงสัยว่า ความแตกต่างระหว่างไม้แบดมินตันราคาถูกและราคาแพงจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นได้จริงหรือไม่? และไม้แบดมินตันราคาแพงดีกว่าเสมอไปหรือไม่?

วิธีการพิจารณาในการเลือกซื้อไม้แบดมินตันราคาถูก หรือ ไม้แบดมินตันราคาแพง ควรเลือกจากอะไรบ้าง ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างอย่างไร ?

1. ด้านวัสดุ:
โดยทั่วไปไม้แบดมินตันราคาแพงมักทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงในการผลิตเฟรมและก้านของไม้แบดมินตัน ซึ่งให้ความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา นอกจากนั้นยังใส่วัสดุดูดซับแรงสั่นสะเทือนในตัวไม้แบดมินตัน จนมาถึงด้ามของไม้แบดมินตันก็จะมีการเลือกไม้อย่างดีมาผลิต แต่ในบางยี่ห้อก็จะใช้วัสดุพิเศษในการทำเช่น Nano Material (พลาสติกคุณภาพสูง) หรือแม้แต่บางรุ่นก็ยังใช้คาร์บอนไฟเบอร์มาผลิต

ลำดับต่อมาคือไม้ในราคาที่รองลงมา ก็มักจะใช้เลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพลดลงมา ตัดวัสดุดูดที่ช่วยซับเเรงสั่นสะเทือน และวัสดุบางตัวที่ราคาสูงออกไป แต่ก็ใช้การออกแบบให้ก้านไม้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อมาทดแทน ทำให้ฟีลลิ่งการตียังคงนุ่มอยู่ ความแข็งแรง ทนทานก็จะอยู่ในระดับที่ดี สุดท้ายคือแร็คเกตราคาถูกมักทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ เช่น อะลูมิเนียมหรือวัสดุผสมคาร์บอนเกรดต่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแรง น้ำหนัก และประสิทธิภาพโดยรวม

2. ด้านโครงสร้างและเทคโนโลยี:

ไม้แบดมินตันราคาสูงมักมีเทคนิคการออกแบบและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น หน้าไม้แบดมินตันที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น สามารถขึ้นเอ็นรูปแบบพิเศษ และยังมีนวัตกรรมในการออกแบบโครงสร้างไม้แบดมินตันทั้งเฟรมและก้าน และการใช้เทคโนโลยีลดแรงสั่นสะเทือนจากไม้แบดมินตันมายังมือและแขน ส่วนไม้แบดมินตันในระดับราคากลางๆ ก็จะเลือกตัดเทคโนโลยีในบางตัวที่รุ่นท๊อปมีออกไปเพื่อให้ราคาถูกลงมา ส่วนไม้แบดมินตันราคาถูกมักจะขาดคุณสมบัติขั้นสูงเหล่านี้

ไม้แบดมินตันที่มีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการให้สปีดของลูก วิถีของลูกที่พุ่งออกไปมีความนิ่งและแม่นยำ การลดแรงสะท้านของไม้แบดมินตัน และแน่นอนว่าไม้แบดมินตันในระดับราคารองๆลงไปคุณสมบัติก็จะน้อยลง และไม้แบดมินตันราคาถูกส่วนใหญ่ก็อาจจะถูกตัดสิ่งเหล่านี้ออกไปเลย

3. น้ำหนักและความสมดุล:
ไม้แบดมินตันราคาแพงและในระดับราคารองๆรองลงมานั้นจะได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักและความสมดุลที่เหมาะสมซึ่งรองรับสไตล์การเล่นและความชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีตัวเลือกที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้เลือก เช่น ไม้แบดมินตันหัวหนัก Head-Heavy, ไม้แบดมินตันหัวเบา Head-Light หรือแบบสมดุล Even Balance ซึ่งในไม้แบดมินตันราคาถูกนั้นบางยี่ห้อจะไม่มีหรือถ้ามีก็อาจจะไม่ตรงกับที่ระบุไว้ สมดุลของไม้แบดมินตันหรือจุดศูนย์ถ่วงของไม้ (ที่ก้านไม้หลายๆรุ่นจะระบุไว้เลยว่า Head Heavy, Head Light, Even Balance) ส่วนอีกปัจจัยคือน้ำหนักของไม้ หน่วยวัดบอกน้ำหนักของไม้แบดมินตันจะแบ่งเป็น 3U-7U แต่ละน้ำหนักจะทำให้ตีได้ยากง่ายต่างกันไปตามทักษะและสไตล์การตีของแต่ละคน

4. ความทนทาน:
ไม้แบดมินตันราคาแพงได้รับการออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระแทก (ลองนึกภาพ swing-speed และความหนักลูกตบของนักกีฬาระดับโลก) ใช้งานได้นานขึ้นเนื่องจากวัสดุและโครงสร้างคุณภาพสูง แต่ไม้แบดมินตันถูกอาจสึกหรอหรือแตกหักได้ง่ายกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น ส่วนไม้ราคากลางและถูกความทนทานต่อแรงกระแทกจะน้อยลง บวกกับวัสดุที่คุณภาพลดลงมา ทำให้อาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือหักได้ถ้าเจอกับแรงปะทะสูง แต่สำหรับมือใหม่หรือมือเริ่มต้นที่กำลังพัฒนาทักษะอาจยังไม่ได้มีแรงปะทะมากนัก เรื่องความทนทานของไม้แบดมินตันอาจไม่มีผลกระทบมากนัก

5. ความตึงของการขึ้นเอ็น:

ไม้แบดมินตันราคาแพงมักจะได้รับการรับแรงดึงได้สูงกว่า ไม้แบดมินตันราคาถูก เช่น จำนวนปอนด์ที่ใช้ในการวัดความตึง-หย่อนของเอ็น ไม้ในระดับแข่งขันส่วนมากจะรับแรงตึงได้ตั้งแต่ 28 ปอนด์ขึ้นไป ส่วนไม้แบดมินตันในราคาที่ถูกกว่านั้น อาจจะรับแรงตึงจากการขึ้นเอ็นได้น้อยกว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้ผู้เล่นได้มีตัวเลือกในการเลือกซื้อไม้แบดมินตันกันมากขึ้น เช่น ไม้แบดมินตันบางรุ่นในราคา 2,000 บาท ก็สามารถขึ้นเอ็นที่มีแรงตึงได้ถึง 31 ปอนด์เช่นกัน แต่อาจจะขาดข้อ 1-3 ไป เพื่อลดต้นทุนของการผลิต

สรุปแล้วแม้ว่าไม้แบดมินตันราคาแพงอาจให้ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และความทนทานที่ดีกว่า การเลือกระหว่างไม้แบดมินตันราคาถูกและแพงขึ้นอยู่กับระดับทักษะ, ความถี่ในการเล่น และที่สำคัญคืองบประมาณของผู้เล่น ผู้เล่นเริ่มต้นบางคนอาจจะเลือกไม้แบดมินตันราคาไม่แพงเหมาะสำหรับการเรียนรู้พื้นฐานไปเบื้องต้น ในขณะที่ผู้เล่นระดับสูงอาจได้รับประโยชน์จากการลงทุนในไม้แบดมินตันคุณภาพสูงเพื่อช่วยเรื่องประสิทธิภาพ หรือผู้เล่นเริ่มต้นก็อาจจะเริ่มจากไม้แบดมินตันราคาสูงไปเลย นั่นก็อาจจะทำให้เมื่อตีไปแล้ว คุณก็อาจจะไม้คุ้นชินกับไม้แบดมินตันราคาถูกไปเลยก็ได้เช่นกัน

แนะนำ 5 ไม้แบดมินตันสาย Control มียี่ห้อไหนแนะนำบ้าง

🏸 รวม Top 5 ไม้แบดมินตันสาย Control จากที่เคยทีมงานได้ทดสอบมา โดยเราจัดลำดับตามประสิทธิภาพของไม้แบดมินตันประเภทนี้ เช่น การวางลูกได้แม่นยำ น้ำหนักลูกบุก ประสิทธิภาพในเกมรับ การลดแรงสะท้าน การควบคุมที่ไม่ยากจนเกินไป และราคาของไม้ 🏸

อย่างแรกต้องบอกว่าไม้แบดมินตันสาย control ทั้ง 5 ตัวนี้มีความใกล้เคียงกันมาก

♦️1. Victor DRIVEX 9X
Victor DRIVEX 9X เป็นไม้แบดมินตันที่เราตัดสินให้ได้ที่ 1 เพราะตัว Victor DRIVEX 9X นี้ตีเข้ามือง่ายจริงๆ เข้ามือตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดสอบเลย ให้การส่งแรงที่ดีทั้งเกมรุกและรับ น้ำหนักในการวางลูกปรับได้ค่อนข้างง่าย เกมสวนดาดก็ไม่ช้าเลย และที่สำคัญอีกเรื่องคือให้ความนุ่มมือมากเวลาตี

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตัน Victor DRIVEX 9X รุ่นนี้เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เล่นแบดที่ตีมาได้ระยะเวลาหนึ่ง สามารถออกลูกเซฟ ลูกตบได้พอประมาณ แต่อาจไม่เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มตีทั้งชายและหญิง เพราะก้านของตัว Victor DRIVEX 9X จะมีความแข็งอยู่ อาจทำให้รู้สึกว่าลูกที่ออกไม่ค่อยมี power ส่วนคนที่ใช้ไม้แบดมินตันสาย Control Speed Power อยู่แล้วสามารถปรับตัวมาใช้ไม้ Victor DRIVEX 9X ได้ง่าย เช่น เมื่อล้าจากการใช้ไม้บุกหัวหนักๆ มา อาจจะสลับมาใช้ไม้นี้เพื่อเซฟแรงได้

✅นักแบดมินตันที่ใช้: Apriyani Rahayu

 

 

♦️2. Li-Ning Bladex 900 Max Sun
ไม้แบดมินตันรุ่นล่าสุดจากค่าย Li-Ning เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเข้ามือง่าย และการปรับตัวเข้ากับไม้แบดมินตัน Li-Ning Bladex 900 Max Sun ก็ไม่ได้ยากเลย ไม้รุ่นนี้จริงๆแล้ว ถูกจัดให้อยู่ใน series speed racket ของ Li-Ning แต่จากการทดสอบตัว Bladex 900 Max Sun หัวไม้จะมีน้ำหนักอยู่บ้าง ไม้นี้เลยสามารถช่วยในการส่งแรงอยู่บ้าง ส่วนตัวก้านไม้ให้การส่งแรงที่ดีทั้งเกมรุกและรับ(ลูกตบมีพลังพอสมควรเลย) การวางลูกทำได้ง่าย เกมสวนดาดอยู่ในระดับที่ดี ไม่สะท้านตีแล้วรู้สึกนุ่มมือ ทางเราเลยขอจัดตัว Li-Ning Bladex 900 Max Sun เข้ามาในกลุ่มสาย Control

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้ว หรือผู้ชายมือใหม่ที่มีแรงพอสมควรก็พอใช้ได้ แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ผู้หญิง เพราะก้านมีความแข็งอยู่ และไม้ก็ให้ความรู้สึกหนักพอสมควรแม้จะเป็นไม้แบดมินตัน 4u ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้สาย Control Speed Power อยู่สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: Alexandra Bøje

 

♦️3. Yonex ArcSaber 7 PRO
ไม้แบดมินตัน Yonex ArcSaber 7 PRO เป็นอีกหนึ่งไม้ที่สเปคดี แต่การปรับเข้ามือจะยากกว่าตัวอื่นๆ ไม้ตัวนี้ถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นกัน ให้แรงส่งที่ดีทั้งเกมรุกและรับ น้ำหนักในการวางลูกทำได้ง่าย เกมสวนดาดเร็วสูสีกับพวกไม้สาย Speed แต่ไม้แบดมินตัน Yonex ArcSaber 7 PRO รุ่นนี้บางคนอาจมีความรู้สึกว่าลูกตบไม่ค่อยมีพลังเท่าไหร่ (แต่บาส เดชาพล ใช้แล้วตบหนักมากนะ) เพราะก้านมีความแข็งอยู่เล็กน้อยอาจจะรู้สึกว่ามันตียาก

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ทั้งหญิงและชายที่ยังไม่แข็งแรง ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้สาย Control Speed Power สามารถปรับตัวมาใช้ได้ แต่อาจใช้มากกว่าไม้อื่นๆ ในการปรับตัว

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: เดชาพล พัววรานุเคราะห์

 

 

♦️4. Victor AURASPEED 100X
ไม้ยอดฮิตในปี 2022 เป็นประเด็นกันมากไม่ว่าจะเป็นคำชมที่มากมายและข้อสังเกตที่เป็นดราม่ากันก็ไม่น้อย จริงๆแล้วบางคนอาจจะจัด Victor AURASPEED 100X อยู่ในไม้สาย speed แต่จากการทดสอบของเรา balance ของหัวไม้ออกจะมาทางกลางๆ ฟิลการตีจะมาทาง control มากกว่า ไม้แบดมินตันรุ่น Victor AURASPEED 100X H นี้ได้อันดับ 4 จากเราเพราะต้องใช้เวลาพอสมควรที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับไม้ แต่พอเข้ามือแล้วก็เป็นอีกไม้นึงที่ดีมากๆ เกมรุกรับทำได้ดีมาก และตัว Victor AURASPEED 100X นี้เด่นมากเรื่องลูกสวนดาด ความคล่องตัวในการใช้ลงเกมส์จริงๆค่อนข้างดี

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง เพราะก้านมีความแข็งอยู่อาจจะรู้สึกว่ามันตียาก ต้องใช้ข้อมือเป็น ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้ไม่ว่าจะสาย Control Speed Power สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้ เพราะไม้สาย control คนที่ตีสายอื่นๆมาสามารถปรับตัวมาใช้ได้ง่าย

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: Mohammad Ahsan

 

 

♦️5. Yonex ArcSaber 11 PRO
ไม้ตัวนี้ก็เป็นไม้ที่ฮิตมากๆ ในปีที่ผ่านมาเช่นกันเพราะรุ่นพี่อย่าง Arcsaber 11 ที่ออกมาก่อนหน้าหลายปีมากๆสร้างชื่อเอาไว้ดีมาก หลายๆคนเลยคาดหวังไว้มากๆกับ Arcsaber 11 แต่ความเห็นของทีมงานไม้นี้จะคล้ายกับ AURASPEED 100X H ข้อเสียคือต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันค่อนข้างมาก ฟีลแรกๆ รู้สึกว่าตัวเก่ายังจะดีกว่าด้วย แต่พอเข้ามือแล้วก็ไม่ต่างจากไม้แบดมินตันรุ่นอื่นๆเลย สามารถรุกรับดี

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง เพราะก้านมีความแข็งอยู่อาจจะรู้สึกว่ามันตียาก ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้ไม่ว่าจะสาย Control Speed Power สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้ เพราะไม้สาย control คนที่ตีสายอื่นๆมาสามารถปรับตัวมาใช้ได้ง่าย

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

 

 

สุดท้ายแล้วการเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความแข็งแรง ทักษะ และความชอบของแต่ละคน เพราะแต่ละไม้มีจุดเด่นของตัวเอง