การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร มีผลต่อไม้ และทำให้เสียงดังขึ้นจริงหรือ ?

การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร มีผลต่อไม้ และทำให้เสียงดังขึ้นจริงหรือ ?
ถามกันมาเยอะมาก ๆ ประเด็นเรื่องของการขึ้นเอ็น 2 แบบ ขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร /ไม่เว้นโปร แบบไหนดีกว่ากัน ?
.
Jongnow ก็เลยได้คำปรึกษาจากคุณแชมป์ ร้าน Mr.C Sport Mr.C Sports คุณแชมป์เป็นหนึ่งในทีมงานที่ได้รับเชิญให้ขึ้นเอ็นให้กับนักกีฬาระดับโลกหลายคนในศึก Thomas & Uber Cup 2022 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยที่ผ่านมา

การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปร คือการดึงเอ็นเส้นแนวนอนเส้นสุดท้าย ลงมา 1 ช่องตาไก่
มีประวัติมาจากไม้ยี่ห้อ Pro KENNEX รุ่นหนึ่ง ซึ่งเวลาขึ้นจะบังคับให้ต้องเว้นช่องด้านล่างเสมอ คนจึงติดปากเรียกกันต่อมาว่า “เว้นโปร” มาจากชื่อของโปร เคนเน็ก นั่นเอง จากนั้นก็เลยได้วิธีการขึ้นเอ็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น (พี่แชมป์บอกว่าต่างชาติจะไม่รู้จักการเว้นแบบนี้ เค้าจะงงว่าเว้นเพื่อ? 555555555) ><”
.
อย่างนักแบดระดับโลก 99% ก็ไม่เว้นกันค่ะ แต่ที่เราเห็นขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรก็จะมีแค่ Tai Tzu Ying ที่คุณพ่อจะเป็นผู้ขึ้นเอ็นให้แต่เป็นผู้เดียวเลย ยิ่งถ้ารายการไหนคุณพ่อไม่ได้ไปก็จะต้องพกไม้ไปเยอะซะหน่อย (เพราะชื่อใจในคุณพ่อ ฟิลลิ่งนี้น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ)
.
คำถามยอดฮิตที่เกี่ยวกับการขึ้นเอ็น
Q : การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรมีผลกับอายุการใช้งานของไม้หรือไม่ ?
คำตอบคือ : ไม่มีผลกับเฟรมเลยแม้ว่าจะตีจนเอ็นขาด และกลัวไม่หักเพราะแรงตึงไม่เท่ากัน
ปกติบริเวณจุด T Joint ของใหม่แร็กเก็ต เป็นจุดที่จะแข็งแรงที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นการเว้นโปรไม่ได้ส่งผลต่อเฟรม

**เกร็ดเล็ก ๆ เอ็นขาดแบบไหนบอกอะไรได้บ้าง
– เอ็นขาดแนวนอน (ค่อนไปทางหัวไม้) อาจจะเกิดจากการตีแม่นมาก ๆ เข้า Sweet spot หรือโค้ชที่ปล่อยลูกบ่อย ๆ ก็อาจจะเกิดได้ (บางคนขาด3-5 ไม้ เมื่อนำมาเรียงกันจเห็นะขาดจุดเดียวกันทั้งหมด)
– เอ็นขาดแนวตั้ง แบ่งเป็น 2 กรณี
1.ใช้งานปกติ ตีจนเปื่อยหมดสภาพขาดตามอายุ
2. ขาดไวกว่าปกติ ส่วนมากอาจจะเกิดจากการตีแล้วแป๊กโดนบริเวณขอบเอ็น เนื่องจากขอบเอ็นที่ใกล้กับเฟรมด้านบนของไม้ จะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า โดยกรณีนี้เวลาขาด จะเห็นเหมือนเอ็นขาด 2 เส้นข้างกัน

Q : การขึ้นเอ็นแบบเว้นโปรทำให้เสียงดังกว่าหรือไม่ ?
ส่วนนี้คุณแชมป์คิดว่าไม่ได้มีผลที่ความดัง แต่จะเป็นโทนเสียงที่แตกต่างกันออกไปเท่านั้น เพราะจำนวนเส้นเอ็นเท่าเดิม เพียงแค่การเว้นโปรเพียงการขยับเอ็นเส้นสุดท้ายลงมา 1 ช่องตาไก่เท่านั้น (คล้ายเวลากดสายกีต้าร์)

** เกร็ดเล็ก ๆ เอ็นแบบไหนให้เสียงอย่างไร
– เอ็นเส้นใหญ่ ให้เสียงทุ้มแน่น เช่น BG65 (พอเอาเอ็นมาเคาะ ๆ จะเป็นเสียงโป๊ง ๆ …)
– เอ็น เส้นเล็ก เช่น BG66 Ultrimax เสียงจะแหลม คม (พอนำมาเคาะจะเป็น ตึ๊ง ตึ๊ง …)

***ถ้าถาม มองว่าเส้นใหญ่ ถ้าตีโดนเต็มๆ เสียงจะแน่น และสนั่นกว่า***
สุดท้ายนี้ขึ้นอยู่แต่ละความชื่นชอบของแต่ละบุคคลเลยค่ะ แต่ถ้าหากให้ทางคุณแชมป์แนะนำจะแนะนำให้ขึ้นเต็มแบบไม่เส้นโปรมากกว่าค่ะ ในเมื่อผู้ผลิตมีการทำการคิดค้นมาแล้ว เมื่อมีรูตาไก่ก็แนะนำให้ขึ้นให้ครบน่าจะดีที่สุดค่ะ
.
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณแชมป์ เจ้าของร้านขายอุปกรณ์แบดมินตัน หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถลองแวะเข้าไปชมและเลือกซื้อสินค้าได้เลยนะคะ ได้รับคำแนะนำอย่างดีเลยค่ะ Mr.C Sports

ไม้แบดมินตันราคาถูก VS ไม้แบดมินตันราคาแพง

หลายคนที่กำลังเริ่มเข้าวงการมาใหม่ ๆ คงมีความสงสัยว่า ความแตกต่างระหว่างไม้แบดมินตันราคาถูกและราคาแพงจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นได้จริงหรือไม่? และไม้แบดมินตันราคาแพงดีกว่าเสมอไปหรือไม่?

วิธีการพิจารณาในการเลือกซื้อไม้แบดมินตันราคาถูก หรือ ไม้แบดมินตันราคาแพง ควรเลือกจากอะไรบ้าง ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างอย่างไร ?

1. ด้านวัสดุ:
โดยทั่วไปไม้แบดมินตันราคาแพงมักทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงในการผลิตเฟรมและก้านของไม้แบดมินตัน ซึ่งให้ความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา นอกจากนั้นยังใส่วัสดุดูดซับแรงสั่นสะเทือนในตัวไม้แบดมินตัน จนมาถึงด้ามของไม้แบดมินตันก็จะมีการเลือกไม้อย่างดีมาผลิต แต่ในบางยี่ห้อก็จะใช้วัสดุพิเศษในการทำเช่น Nano Material (พลาสติกคุณภาพสูง) หรือแม้แต่บางรุ่นก็ยังใช้คาร์บอนไฟเบอร์มาผลิต

ลำดับต่อมาคือไม้ในราคาที่รองลงมา ก็มักจะใช้เลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพลดลงมา ตัดวัสดุดูดที่ช่วยซับเเรงสั่นสะเทือน และวัสดุบางตัวที่ราคาสูงออกไป แต่ก็ใช้การออกแบบให้ก้านไม้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อมาทดแทน ทำให้ฟีลลิ่งการตียังคงนุ่มอยู่ ความแข็งแรง ทนทานก็จะอยู่ในระดับที่ดี สุดท้ายคือแร็คเกตราคาถูกมักทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ เช่น อะลูมิเนียมหรือวัสดุผสมคาร์บอนเกรดต่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแรง น้ำหนัก และประสิทธิภาพโดยรวม

2. ด้านโครงสร้างและเทคโนโลยี:

ไม้แบดมินตันราคาสูงมักมีเทคนิคการออกแบบและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น หน้าไม้แบดมินตันที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น สามารถขึ้นเอ็นรูปแบบพิเศษ และยังมีนวัตกรรมในการออกแบบโครงสร้างไม้แบดมินตันทั้งเฟรมและก้าน และการใช้เทคโนโลยีลดแรงสั่นสะเทือนจากไม้แบดมินตันมายังมือและแขน ส่วนไม้แบดมินตันในระดับราคากลางๆ ก็จะเลือกตัดเทคโนโลยีในบางตัวที่รุ่นท๊อปมีออกไปเพื่อให้ราคาถูกลงมา ส่วนไม้แบดมินตันราคาถูกมักจะขาดคุณสมบัติขั้นสูงเหล่านี้

ไม้แบดมินตันที่มีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการให้สปีดของลูก วิถีของลูกที่พุ่งออกไปมีความนิ่งและแม่นยำ การลดแรงสะท้านของไม้แบดมินตัน และแน่นอนว่าไม้แบดมินตันในระดับราคารองๆลงไปคุณสมบัติก็จะน้อยลง และไม้แบดมินตันราคาถูกส่วนใหญ่ก็อาจจะถูกตัดสิ่งเหล่านี้ออกไปเลย

3. น้ำหนักและความสมดุล:
ไม้แบดมินตันราคาแพงและในระดับราคารองๆรองลงมานั้นจะได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักและความสมดุลที่เหมาะสมซึ่งรองรับสไตล์การเล่นและความชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีตัวเลือกที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้เลือก เช่น ไม้แบดมินตันหัวหนัก Head-Heavy, ไม้แบดมินตันหัวเบา Head-Light หรือแบบสมดุล Even Balance ซึ่งในไม้แบดมินตันราคาถูกนั้นบางยี่ห้อจะไม่มีหรือถ้ามีก็อาจจะไม่ตรงกับที่ระบุไว้ สมดุลของไม้แบดมินตันหรือจุดศูนย์ถ่วงของไม้ (ที่ก้านไม้หลายๆรุ่นจะระบุไว้เลยว่า Head Heavy, Head Light, Even Balance) ส่วนอีกปัจจัยคือน้ำหนักของไม้ หน่วยวัดบอกน้ำหนักของไม้แบดมินตันจะแบ่งเป็น 3U-7U แต่ละน้ำหนักจะทำให้ตีได้ยากง่ายต่างกันไปตามทักษะและสไตล์การตีของแต่ละคน

4. ความทนทาน:
ไม้แบดมินตันราคาแพงได้รับการออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระแทก (ลองนึกภาพ swing-speed และความหนักลูกตบของนักกีฬาระดับโลก) ใช้งานได้นานขึ้นเนื่องจากวัสดุและโครงสร้างคุณภาพสูง แต่ไม้แบดมินตันถูกอาจสึกหรอหรือแตกหักได้ง่ายกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น ส่วนไม้ราคากลางและถูกความทนทานต่อแรงกระแทกจะน้อยลง บวกกับวัสดุที่คุณภาพลดลงมา ทำให้อาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือหักได้ถ้าเจอกับแรงปะทะสูง แต่สำหรับมือใหม่หรือมือเริ่มต้นที่กำลังพัฒนาทักษะอาจยังไม่ได้มีแรงปะทะมากนัก เรื่องความทนทานของไม้แบดมินตันอาจไม่มีผลกระทบมากนัก

5. ความตึงของการขึ้นเอ็น:

ไม้แบดมินตันราคาแพงมักจะได้รับการรับแรงดึงได้สูงกว่า ไม้แบดมินตันราคาถูก เช่น จำนวนปอนด์ที่ใช้ในการวัดความตึง-หย่อนของเอ็น ไม้ในระดับแข่งขันส่วนมากจะรับแรงตึงได้ตั้งแต่ 28 ปอนด์ขึ้นไป ส่วนไม้แบดมินตันในราคาที่ถูกกว่านั้น อาจจะรับแรงตึงจากการขึ้นเอ็นได้น้อยกว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้ผู้เล่นได้มีตัวเลือกในการเลือกซื้อไม้แบดมินตันกันมากขึ้น เช่น ไม้แบดมินตันบางรุ่นในราคา 2,000 บาท ก็สามารถขึ้นเอ็นที่มีแรงตึงได้ถึง 31 ปอนด์เช่นกัน แต่อาจจะขาดข้อ 1-3 ไป เพื่อลดต้นทุนของการผลิต

สรุปแล้วแม้ว่าไม้แบดมินตันราคาแพงอาจให้ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และความทนทานที่ดีกว่า การเลือกระหว่างไม้แบดมินตันราคาถูกและแพงขึ้นอยู่กับระดับทักษะ, ความถี่ในการเล่น และที่สำคัญคืองบประมาณของผู้เล่น ผู้เล่นเริ่มต้นบางคนอาจจะเลือกไม้แบดมินตันราคาไม่แพงเหมาะสำหรับการเรียนรู้พื้นฐานไปเบื้องต้น ในขณะที่ผู้เล่นระดับสูงอาจได้รับประโยชน์จากการลงทุนในไม้แบดมินตันคุณภาพสูงเพื่อช่วยเรื่องประสิทธิภาพ หรือผู้เล่นเริ่มต้นก็อาจจะเริ่มจากไม้แบดมินตันราคาสูงไปเลย นั่นก็อาจจะทำให้เมื่อตีไปแล้ว คุณก็อาจจะไม้คุ้นชินกับไม้แบดมินตันราคาถูกไปเลยก็ได้เช่นกัน

แนะนำ 5 ไม้แบดมินตันสาย Control มียี่ห้อไหนแนะนำบ้าง

🏸 รวม Top 5 ไม้แบดมินตันสาย Control จากที่เคยทีมงานได้ทดสอบมา โดยเราจัดลำดับตามประสิทธิภาพของไม้แบดมินตันประเภทนี้ เช่น การวางลูกได้แม่นยำ น้ำหนักลูกบุก ประสิทธิภาพในเกมรับ การลดแรงสะท้าน การควบคุมที่ไม่ยากจนเกินไป และราคาของไม้ 🏸

อย่างแรกต้องบอกว่าไม้แบดมินตันสาย control ทั้ง 5 ตัวนี้มีความใกล้เคียงกันมาก

♦️1. Victor DRIVEX 9X
Victor DRIVEX 9X เป็นไม้แบดมินตันที่เราตัดสินให้ได้ที่ 1 เพราะตัว Victor DRIVEX 9X นี้ตีเข้ามือง่ายจริงๆ เข้ามือตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดสอบเลย ให้การส่งแรงที่ดีทั้งเกมรุกและรับ น้ำหนักในการวางลูกปรับได้ค่อนข้างง่าย เกมสวนดาดก็ไม่ช้าเลย และที่สำคัญอีกเรื่องคือให้ความนุ่มมือมากเวลาตี

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตัน Victor DRIVEX 9X รุ่นนี้เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เล่นแบดที่ตีมาได้ระยะเวลาหนึ่ง สามารถออกลูกเซฟ ลูกตบได้พอประมาณ แต่อาจไม่เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มตีทั้งชายและหญิง เพราะก้านของตัว Victor DRIVEX 9X จะมีความแข็งอยู่ อาจทำให้รู้สึกว่าลูกที่ออกไม่ค่อยมี power ส่วนคนที่ใช้ไม้แบดมินตันสาย Control Speed Power อยู่แล้วสามารถปรับตัวมาใช้ไม้ Victor DRIVEX 9X ได้ง่าย เช่น เมื่อล้าจากการใช้ไม้บุกหัวหนักๆ มา อาจจะสลับมาใช้ไม้นี้เพื่อเซฟแรงได้

✅นักแบดมินตันที่ใช้: Apriyani Rahayu

 

 

♦️2. Li-Ning Bladex 900 Max Sun
ไม้แบดมินตันรุ่นล่าสุดจากค่าย Li-Ning เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเข้ามือง่าย และการปรับตัวเข้ากับไม้แบดมินตัน Li-Ning Bladex 900 Max Sun ก็ไม่ได้ยากเลย ไม้รุ่นนี้จริงๆแล้ว ถูกจัดให้อยู่ใน series speed racket ของ Li-Ning แต่จากการทดสอบตัว Bladex 900 Max Sun หัวไม้จะมีน้ำหนักอยู่บ้าง ไม้นี้เลยสามารถช่วยในการส่งแรงอยู่บ้าง ส่วนตัวก้านไม้ให้การส่งแรงที่ดีทั้งเกมรุกและรับ(ลูกตบมีพลังพอสมควรเลย) การวางลูกทำได้ง่าย เกมสวนดาดอยู่ในระดับที่ดี ไม่สะท้านตีแล้วรู้สึกนุ่มมือ ทางเราเลยขอจัดตัว Li-Ning Bladex 900 Max Sun เข้ามาในกลุ่มสาย Control

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้ว หรือผู้ชายมือใหม่ที่มีแรงพอสมควรก็พอใช้ได้ แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ผู้หญิง เพราะก้านมีความแข็งอยู่ และไม้ก็ให้ความรู้สึกหนักพอสมควรแม้จะเป็นไม้แบดมินตัน 4u ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้สาย Control Speed Power อยู่สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: Alexandra Bøje

 

♦️3. Yonex ArcSaber 7 PRO
ไม้แบดมินตัน Yonex ArcSaber 7 PRO เป็นอีกหนึ่งไม้ที่สเปคดี แต่การปรับเข้ามือจะยากกว่าตัวอื่นๆ ไม้ตัวนี้ถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนเช่นกัน ให้แรงส่งที่ดีทั้งเกมรุกและรับ น้ำหนักในการวางลูกทำได้ง่าย เกมสวนดาดเร็วสูสีกับพวกไม้สาย Speed แต่ไม้แบดมินตัน Yonex ArcSaber 7 PRO รุ่นนี้บางคนอาจมีความรู้สึกว่าลูกตบไม่ค่อยมีพลังเท่าไหร่ (แต่บาส เดชาพล ใช้แล้วตบหนักมากนะ) เพราะก้านมีความแข็งอยู่เล็กน้อยอาจจะรู้สึกว่ามันตียาก

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ทั้งหญิงและชายที่ยังไม่แข็งแรง ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้สาย Control Speed Power สามารถปรับตัวมาใช้ได้ แต่อาจใช้มากกว่าไม้อื่นๆ ในการปรับตัว

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: เดชาพล พัววรานุเคราะห์

 

 

♦️4. Victor AURASPEED 100X
ไม้ยอดฮิตในปี 2022 เป็นประเด็นกันมากไม่ว่าจะเป็นคำชมที่มากมายและข้อสังเกตที่เป็นดราม่ากันก็ไม่น้อย จริงๆแล้วบางคนอาจจะจัด Victor AURASPEED 100X อยู่ในไม้สาย speed แต่จากการทดสอบของเรา balance ของหัวไม้ออกจะมาทางกลางๆ ฟิลการตีจะมาทาง control มากกว่า ไม้แบดมินตันรุ่น Victor AURASPEED 100X H นี้ได้อันดับ 4 จากเราเพราะต้องใช้เวลาพอสมควรที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับไม้ แต่พอเข้ามือแล้วก็เป็นอีกไม้นึงที่ดีมากๆ เกมรุกรับทำได้ดีมาก และตัว Victor AURASPEED 100X นี้เด่นมากเรื่องลูกสวนดาด ความคล่องตัวในการใช้ลงเกมส์จริงๆค่อนข้างดี

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง เพราะก้านมีความแข็งอยู่อาจจะรู้สึกว่ามันตียาก ต้องใช้ข้อมือเป็น ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้ไม่ว่าจะสาย Control Speed Power สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้ เพราะไม้สาย control คนที่ตีสายอื่นๆมาสามารถปรับตัวมาใช้ได้ง่าย

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: Mohammad Ahsan

 

 

♦️5. Yonex ArcSaber 11 PRO
ไม้ตัวนี้ก็เป็นไม้ที่ฮิตมากๆ ในปีที่ผ่านมาเช่นกันเพราะรุ่นพี่อย่าง Arcsaber 11 ที่ออกมาก่อนหน้าหลายปีมากๆสร้างชื่อเอาไว้ดีมาก หลายๆคนเลยคาดหวังไว้มากๆกับ Arcsaber 11 แต่ความเห็นของทีมงานไม้นี้จะคล้ายกับ AURASPEED 100X H ข้อเสียคือต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันค่อนข้างมาก ฟีลแรกๆ รู้สึกว่าตัวเก่ายังจะดีกว่าด้วย แต่พอเข้ามือแล้วก็ไม่ต่างจากไม้แบดมินตันรุ่นอื่นๆเลย สามารถรุกรับดี

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วหรือมือใหม่ที่มีแรงประมาณนึง เพราะก้านมีความแข็งอยู่อาจจะรู้สึกว่ามันตียาก ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้ไม่ว่าจะสาย Control Speed Power สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้ เพราะไม้สาย control คนที่ตีสายอื่นๆมาสามารถปรับตัวมาใช้ได้ง่าย

✅ นักแบดมินตันที่ใช้: ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

 

 

สุดท้ายแล้วการเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความแข็งแรง ทักษะ และความชอบของแต่ละคน เพราะแต่ละไม้มีจุดเด่นของตัวเอง

แนะนำ 5 ไม้แบดมินตันสาย speed มียี่ห้อไหนแนะนำบ้าง

รวม Top 5 ไม้แบดมินตันสาย speed จากที่ทีมงานเราเคยทดสอบมา โดยที่ลำดับจะจัดตามประสิทธิภาพของไม้แบดมินตันประเภทนี้คือการให้ความคล่องตัวในการเล่นเกมทั้งรุกและรับ สวนดาดได้ดี การลดแรงสะท้าน การควบคุมที่ไม่ยากจนเกินไปในการลงไปใช่ตีเกมส์จริง และราคาของไม้แบดมินตัน

 

1. Yonex NANOFLARE 700
ไม้แบดมินตันยอดฮิตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำหรับคนชอบไม้แบดมินตันหัวเบา ที่ได้อันดับ 1 จากเราไปเพราะมันทำได้ดีมากๆสมกับเป็นไม้แบดมินตันสายสปีดจริงๆ เกมรับสวนดาดถือว่าเป็นจุดเด่นมากๆ เรื่องเกมรุกในโซนหน้าคอร์ทก็ดีมากเพราะหน้าไม้ของ Nanoflare 700 มีความไว ส่วนลูกตบอาจจะต้องใช้ข้อมือเยอะหน่อยเพราะความที่หัวไม้มีน้ำหนักเบา จึงทำให้วิถีของลูกลอยไม่จิก แต่ถ้าคนที่ตบข้อมือดีๆ อยู่แล้วน้ำหนักไม้แบดมินตัน Yonex Nanoflare 700 แรงไม่แพ้สาย power เลย และจุดเด่นอีกอย่างคือการลดแรงสะเทือนมายังข้อมือเเละแขนน้อยมาก แต่ยังคงความรู้สึกดิบนิดๆตอนไม้ประทะลูก ถือว่าดีมาก

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันรุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมาในระดับนึงแล้วรู้ทักษะการใช้ข้อมือในการออกลูกบ้างแล้ว สำหรับมือใหม่ทั้งชายและหญิงอาจจะตีได้ยาก หรือไม่ได้ใช้ศักยภาพของไม้อย่างคุ้มค่า (ราคาแรงอยู่) เพราะก้านมีความแข็ง อาจทำรู้สึกว่าการตีลูกออกลูกยากจนทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าไหร่ ส่วนคนที่ตีสาย Control มาน่าจะสามารถปรับตัวได้ง่ายกับไม้แบดมินตัน Nanoflare 700 แต่คนที่มาจากสาย power เพียวๆ อาจจะจะรู้สึกว่าตบเบาไป

นักกีฬาที่ใช้ไม้นี้: น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์,นามิ มัตซึยาม่า

 

 

 

2. Victor AURASPEED HYPERSONIC
ส่วนอันดับที่ 2 นี้จริงๆแล้วก็มีการตัดสินใจค่อนช้างยากมากกับอันดับที่ 1 คือไม้ตัวนี้มีคุณสมบัติแทบไม่ต่างจาก Yonex NANOFLARE 700 เลย เกมรุกรับทำได้ดีมากๆ การสวนดาดก็ดีมาก การปรับตัวมาใช้ก็ง่าย แถมงานสีความเนียบของไม้งานดีมากแม้จะเป็นงานผลิตในจีน แต่ที่ตัดสินให้เป็นที่ 2 เพราะหลายๆคนอาจจะรู้สึกเหมือนแรงถูก absorb ไปค่อนข้างมาก สำหรับคนที่ชอบความรู้สึกดิบตอนไม้แบดมินตันปะทะลูก อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และการบุกจะเป็นรอง Yonex NANOFLARE 700 เล็กน้อย(ในกรณีคนแข็งแรง จะชอบก้านของ Yonex NANOFLARE 700 ที่แข็งกว่าเพราะให้การดีดตัวที่รุนแรงกว่า)

ข้อแนะนำ : ไม้รุ่นนี้เหมาะมากกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมาในระดับนึงแล้ว จนถึงมือใหม่ทั้งชายและหญิงก็สามารถใช้ได้ เพราะก้านมีความดีดตัวค่อนข้างง่าย ส่วนการปรับตัวคนที่ตีสาย Control สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้ตัวนี้ แต่สาย power อาจจะรู้สึกว่าตบเบาไปนิดพอใส่ข้อมือเยอะๆ ลูกก็ติดเน็ต ต้องมีการปรับคัวกับ Victor AURASPEED HYPERSONIC พอสมควร

นักกีฬาที่ใช้ไม้นี้ : Melati Daeva Oktavianti

 

3. Li-Ning BLADEX 900 MAX MOON
ตัวล่าสุดจากค่าย Li-Ning เป็นไม้แบดมินตันที่สวยมาก ใครที่เคยใช้ไม้แบดมินตัน Li-Ning BLADEX มาก่อนแล้วยังรู้สึกว่ามันยังไม่คล่องตัวเท่าที่ควร เจ้า Li-Ning BLADEX 900 MAX MOON ตัวใหม่นี้ถูกปรับให้มีความคล่องตัวมากๆ ทั้งลูกดัก ลูกแย็บ ลูกสวนดาด ลูกเซฟก็ไม่ต้องออกเเรงเค้นเยอะ แต่ในเกมบุกท้ายคอร์ทจะเป็นรองสองตัวแรกอยู่ และบางคนที่ไม่เคยใช้ไม้แบดมินตันซีรี่ย์นี้มาก่อนอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย ข้อมือต้องแข็งแรงพอสมควรถึงจะสามารถใช้พลังจากไม้ Li-Ning

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันรุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมาในระดับนึงแล้ว แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ทั้งชายและหญิง เพราะก้านมีความแข็งอยู่อาจจะรู้สึกว่ามันตีไม่ค่อยไป ส่วนคนชอบเกมส์บุกหนักๆ ให้ลองไปดูที่ Li-Ning BLADEX 900 MAX SUN แทน ส่วนการปรับตัวคนที่ตีสาย Control สามารถปรับตัวได้ง่ายในการใช้ไม้แบดมินตันตัวนี้ แต่สาย power อาจจะรู้สึกว่าตบเบาไปนิดต้องใช้ข้อมือช่วยเยอะๆ

 

4. Yonex NANOFLARE 800
ไม้แบดมินตัน Yonex NANOFLARE 800 ถึงแม้จะไม่ได้ค่อยเห็นมากนัก แต่ไม้แบดมินตันรุ่นนี้ให้คุณสมบัติที่ค่อนข้างคล้ายกับ NANOFLARE 700 แต่ก้านจะมีความแข็งกว่า ดังนั้นไม้แบดมินตันนี้จะเหมาะกับคนที่แรงข้อมือถึงด้วย ถ้ามีความแข็งแรงไม้นี้จะช่วยให้ตบได้หนักมากทีเดียวเพราะก้านที่แข็งจะให้แรงดีดตัวกลับที่ดีมาก(แรงต้องถึง)

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันรุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมาในระดับนึงแล้วและต้องมีความแข็งแรงในระดับนึงด้วย แต่ไม่เหมาะกับมือใหม่ทั้งชายและหญิง เพราะก้านมีความแข็งอยู่มากอาจจะรู้สึกว่ามันตียาก ส่วนการปรับตัวคนที่ตีสาย Control สามารถปรับตัวได้ไม่ยาก

นักแบดมินตันที่ใช้: มายุ มัตชึโมโต้ หรือ ชิฮารุ ชิดะ

 

5. Lining BLADEX SONAR
แม้ว่าไม้รุ่นนี้จะไม่ใช่ตัวท๊อป แต่ก็ติดโผมาด้วยเพราะเป็นไม้แบดมินตันสายสปีดที่ตีง่ายมากตัวอื่นๆ เพราะก้านตัวนี้จะไม่ได้เเข็งมาก มีความคล่องตัวทั้งเกมส์รุก เวลาตบสามารถให้น้ำหนักลูกตบได้ดีพอสมควรเมื่อเทียบกับไม้สาย speed ตัวอื่นๆ เกมส์สวนดาดก็ให้ความคล่องตัวด้วย และในเกมส์รับก็ดีดดี การปรับตัวค่อนข้างง่ายกับทั้งคนที่ ตีสาย Control และ Power มา แต่ความนุ่ม แน่น จะน้อยกว่าในรุ่นระดับท๊อปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับกระด้างเลยทีเดียว

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันรุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมาในระดับนึงแล้ว และมือใหม่ทั้งชายและหญิง เพราะก้านมีการดีดตัวดีมาก ส่วนการปรับตัวเมื่อมาใช้ไม้นี้ก็ไม่ยากเลย และราคาก็เป็นมิตรกับเราพอสมควร(ประมาณ 2900 บาท)

วิคเตอร์ เซ็นต์สัญญาเยาวชนมือ 1 ไทย “กาย ณชกร” สังกัดสโมสรพลสนะ

พิธีลงนามเซ็นสัญญาการสนับสนุนนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย ระหว่าง คุณหมิง ชิง จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคเตอร์ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด กับ “กาย”ณชกร ภู่ศรี นักแบดมินตันมือหนึ่งเยาวชนทีมชาติไทย ประเภทชายเดี่ยว ภายใต้สังกัดสโมสรพลสนะแบดมินตัน และ ปัจจุบันคือมืออันดับ 18 ของโลก เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2023 ณ โรงเรียนสอนแบดมินตันพลสนะ กรุงเทพฯ โดย “แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 4 ของโลก ผู้ฝึกสอนสโมสรพลสนะแบดมินตันและแบรนด์แอมบาสเดอร์ ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย
 

 
สำหรับการสนับสนุน “กาย” ณชกร  จากทางวิคเตอร์ในครั้งนี้ จะได้รับการสนับสนุนในการลงแข่งขันแบดมินตันอาชีพรายการต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยเเบ่งเป็น อุปกรณ์แบดมินตัน เงินเดือน และโบนัสสนับสนุน
 

 

 
ด้าน “แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 4 ของโลก และ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรพลสนะ แบดมินตัน กล่าวว่า “ในฐานะอดีตนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย รู้สึกภูมิใจที่นักกีฬาเยาวชนไทย ในสังกัดของสโมสรพลสะนะได้รับการสนับสนุนจากวิคเตอร์ ไทยแลนด์ จึงเปรียบเสมือนเป็นประตูบานแรก ต่อยอดให้ กาย ก้าวต่อไปและพัฒนาสู่ระดับสากลในอนาคตในฐานะนักกีฬาอาชีพ และเชื่อว่า กาย ณชกร จะเป็นดาวดวงใหม่อีกคนที่จะสร้างชื่อเสียงให้วงการขนไก่ไทยอย่างแน่นอน
 

 
ขณะที่ “เจ้ากาย กาย ณชกร” วัย 18 ปี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ วิคเตอร์ เข้ามาสนับสนุน และพร้อมสู้ศึกรายการต่าง ๆ ในการแข่งขันในทุกรายการ รวมทั้งขอขอบคุณทางวิคเตอร์ที่เข้ามาสนับสนุนในครั้งนี้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆคน ด้าน คุณหมิง ชิง จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคเตอร์ สปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า ทาง วิคเตอร์ สปอร์ต ไทยแลนด์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนทีมชาติไทย เชื่อว่าการเซ็นสัญญาครั้งนี้กับ “กาย” ณชกร ภู่ศรี  จะเป็นส่วนผลักดัน และพัฒนาวงการแบดมินตันไทยก้าวไปสู่ระดับโลกได้ และยังได้มอบอัดฉีดให้กับ “กาย” ณชกร ภู่ศรี  จากการคว้าแชมป์รายการ “อิตาเลี่ยน จูเนียร์ 2023” เป็นเงิน 50,000 บาท อีกด้วย
 

 
สำหรับ ผลงานล่าสุดของ “กาย ณชกร ภู่ศรี” ปัจจุบันอายุ 18 ปี วางอันดับ18 แบดมินตันเยาวชนชายโลก และเยาวชนมือ 1 ของประเทศไทย ได้คว้าแชมป์แบดมินตันเยาวชนโลก ประเภทชายเดี่ยว ในศึก “อิตาเลี่ยน จูเนียร์ 2023” ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมเวิลด์ จูเนียร์ Ranking ของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
 

 

 

แนะนำ 5 ไม้แบดมินตันสายบุก มียี่ห้อไหนแนะนำบ้าง

กีฬาแบดมินตัน เป็นกีฬาที่ยอดฮิตที่ยังติดอันดับความสนใจของกลุ่มเพื่อน กลุ่มพนักงานออฟฟิศ เพราะเป็นกีฬาที่สร้างความสนุกสนาน และยังได้ออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย เพียงมีอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ไม้แบดมินตัน รองเท้าแบดมินตัน และลูกแบดมินตัน และผู้เล่น 2 คนขึ้นไปก็สามารถตีด้วยกันได้และสร้างความสนุกสนานกันได้ไม่ยาก

 

แล้วอุปกรณ์แบบไหนที่จะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาไม้แบดมินตันสายบุก เน้นตบได้ดี จองนาวขอมาจัดอันดับ  Top 5 ไม้แบดมินตันสายบุกหรือสาย Power ที่แนะนำ จากที่ทีมงานได้เคยทดสอบมาเอง โดยที่ลำดับจะจัดตามประสิทธิภาพของไม้แบดมินตันประเภทนี้คือการให้แรงตบที่ดี การลดแรงสะท้าน การควบคุมที่ไม่ยากจนเกินไป การใช้งานในการลงเกมส์จริงใช้ได้คล่องตัว และราคาของไม้แบดมินตัน

 

1. ไม้แบด Yonex astrox 88d pro 4U
ถึงแม้ Yonex astrox 88d pro 4U แม้จะไม่ใช่ไม้แบดมินตันสายบุกที่ตบหนักที่สุด แต่กลับได้รับความนิยมมากมายทั้งจากผู้เล่นในระดับโลกและเรา ๆ ที่ตีแบดมินตันกันทั่วไป ไม้แบดมินตัน Yonex astrox 88d pro 4U ต้องบอกก่อนต้องใช้เวลาปรับน้ำหนักมือให้ชินพอสมควร แต่ถ้าคุณตีไม้แบดมินตันสายบุกอยู่แล้ว บอกได้เลยว่าไม้แบดมินตัน Yonex astrox 88d pro 4U คือไม้แบดมินตันสายบุกที่ให้น้ำหนักลูกตบที่ดีมาก ๆ เกมรับสวนดาดก็ดีทีเดียวถ้าเทียบกับไม้แบดมินตันในกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่เท่าพวกไม้แบดมินตันสายสปีด ให้ความนุ่มมือแต่ยังคงความรู้สึกดิบตอนไม้แบดมินตันปะทะลูกอยู่

 

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตัน Yonex astrox 88d pro 4U รุ่นนี้เหมาะกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่เล่นแบดมินตันมาในระดับนึงแล้วและมีความแข็งแรง หรือผู้ที่ต้องการเกมบุกที่หนักขึ้น แต่อาจไม่เหมาะกับมือใหม่ทั้งชายและหญิง และไม่เหมาะกับคนที่ตีไม้แบดมินตันสายสปีดมาโดยตลอดเพราะการปรับตัวจะค่อนข้างยาก ส่วนคนที่ตีสาย control หรือ power มาบ้างแล้ว น่าจะปรับมือเข้ากับ Yonex astrox 88d pro 4U ไม้แบดมินตันสายบุกนี้ได้ไม่ยาก
 

 

2.  Victor TK-F (ENHANCED EDITION) 4U
สำหรับ Victor TK-F (ENHANCED EDITION) 4U นี่จริงๆสูสีกับอันดับที่ 1 มากคุณสมบัติคล้ายกันมาก แต่จะเสียบเปรียบแค่เล็กน้อยเรื่องน้ำหนักลูกตบเท่านั้น ลูกสวนดาดทำได้ดีกว่ามาตรฐานของไม้แบดมินตันสายนี้ด้วย มีความคล่องตัวสูงมาก

 

ข้อแนะนำ : สำหรับไม้แบดมินตันสายบุกVictor TK-F (ENHANCED EDITION) 4U ยังไม่แนะนำสำหรับผู้หญิงมือใหม่ แต่ผู้ชายมือใหม่สามารถใช้ได้เพราะผู้ชายจะมีแรงพอสมควรและไม้แบดมินตันสายบุก Victor TK-F (ENHANCED EDITION) 4U หัวไม่ได้หนักมากจนเกินไป ส่วนมือที่เล่นมาได้สักพักแล้วทั้งหญิงและชายสามารถตีได้แน่นอน แต่สำหรับผู้หญิงอาจจะมีล้าบ้างเมื่อตีไปหลาย ๆ เกม ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้แบดมินตันสายสปีดมาโดยตลอดจะปรับตัวค่อนข้างยาก ส่วนคนที่ตีสาย control หรือ power มาบ้างแล้วน่าจะใช้ไม้ Victor TK-F (ENHANCED EDITION) 4U ได้ไม่ยาก
 

 

3.  Lining AXFORCE 70 WOLF 5U
ไม้แบดมินตันสายบุก Lining AXFORCE 70 WOLF 5U ตัวนี้จุดเด่นจะอยู่ที่ ความสวยงาม สีและลวดลายสวยมากบวกกับถุงผ้ากำมะหยี่ทำให้ดูพรีเมี่ยมมาก วัสดุและเทคโนโลยีที่ให้มาไม่แพ้รุ่นระดับ top ตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเรื่องการดูดซับแรงสั่นสะเทือนและการส่งแรงของไม้แบดมินตัน คุ้มค่ากับค่าตัว 5 พันต้นๆ

 

ข้อแนะนำ : สำหรับคนที่ตีไม้แบดมินตันสายบุก หัวหนัก ก้านแข็งอยู่แล้ว และเป็นคนที่มีความแข็งแรงแรง และทักษะในการตีประมาณนึงแล้ว แต่รู้สึกหน้าที่ใช้อยู่ไม้แบดมินตันช้าไป เกมส์รับก็ไม่คล่องตัว เจ้า Lining Axforce70 wolf 5U จะเหมาะมาก เพราะตัวนี้จะได้ทั้งบุกที่ดีเพราะหัวไม้แบดมินตันมีน้ำหนักนิดๆ และหน้าไม้แบดมินตันไว มีความคล่องตัวมากกว่า ไม้แบดมินตันสายบุก สายบุกเน้น ๆ แน่นอน หรือถ้าใครคิดว่าบุกเบาไปก็แนะนำว่าให้ลองตัว Lining AXFORCE 70 WOLF 4U ดูก็จะช่วยให้บุกหนักขึ้นอีก แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ไม้แบดมินตันสายบุกมาก่อนการปรับตัวก็ไม่ง่ายนัก สำหรับคนตีไม้แบดมินตันสาย control มาก็คงต้องให้เวลากับมันสักพัก ยิ่งคนตีไม้แบดมินตันหัวเบามาตลอดนี่คงต้องใช้เวลามากในการปรับตัวกับ ไม้แบดมินตันสายบุกอย่าง Lining AXFORCE 70 WOLF 5U และมือใหม่ก็แนะนำว่าให้ดูรุ่นเริ่มต้นอื่น ๆ แทนจะเหมาะกว่า

 

 

4.  Victor TK ryuka II 4U
ไม้แบดมินตันสายบุกตัวนี้ถ้าใครเคยใช้ TK ryuka มาแค่ชื่อก็รู้ว่ามันให้ นน ตบที่มากแน่นอน เพราะน้ำหนักหัวไม้แบดมินตันและค่า swing weight ที่น่าจะมากที่สุดใน 5 ตัวนี้ แต่มันไม่ใช่ไม้แบดมินตันที่ทุกคนจะใช้ได้แม้แต่คนที่ตีมาสักพักนึงแล้ว และในปลายปี 2022 ที่ผ่านมาเราก็ได้เห็น Version2 ของตัวนี้ออกมานั่นก็คือ TK ryuka II นั่นเอง มันทำมาเพื่อแก้ปัญหาของ Version แรกเลย ตีง่ายขึ้นมาก การเล่นเกมสวนดาดก็ล่องตัวขึ้น ก้านดีดดีกว่า  น้ำหนักตบอาจจะไม่เท่า TK ryuka I แต่ก็ถือว่าทำได้น้อง TK ryuka I เลย แต่ที่ยังได้อันดับที่ 4 สำหรับเราก็คือมันก็ยังคงไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับมือใหม่และคนเล่นคู่แม้จะใช้ไม้แบดมินตันน้ำหนัก 4U

 

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันสายบุกตัว Victor TK ryuka II 4U รุ่นนี้ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่ทั้งชายและหญิง หรือแม้แต่คนที่ตีมาได้สักพักแล้วแต่แรงยังไม่ถึง กล้ามเนื้อยังไม่แข็งแรงมากเพราะไม้แบดมินตันหัวมีน้ำหนักมาก ก้านแข็ง อาจจะทำให้บาดเจ็บได้  ส่วนการปรับตัวคนที่ตีไม้แบดมินตันสายสปีดมาโดยตลอดจะปรับตัวค่อนข้างยากมาก ส่วนคนที่ตีสาย control หรือ power มาบ้างแล้วปรับตัวง่ายขึ้น แต่คนที่ตีไม้แบดมินตันสายบุก หรือสาย power ชอบตบอยู่แล้วน่าจะชอบ Victor TK ryuka II 4U เลย
 

 

5.  Lining AXFORCE Bigbang 7U – ไม้ตบหนัก ราคาเบา
ไม้แบดมินตันอันดับ 5 นี้ถึงแม้จะไม่ใช่ไม้แบดมินตันรุ่น top แบบ 4 ไม้แบดมินตันด้านบน แต่ตัว Lining AXFORCE Bigbang 7U เป็นไม้แบดมินตันสายบุกระดับกลางที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลองเป็นครั้งแรกอย่างมาก  เพราะไม้แบดมินตัน Lining AXFORCE Bigbang จัดเป็นไม้ที่ให้ความคล่องตัวดีมาก ๆ มีน้ำหนักเบา และยังให้เกมบุกที่ดีมาก ตีง่าย ไม่ต้องออกแรงเค้นเยอะ การลดแรงสะท้านของไม้แบดมินตันก็ทำได้ดีใกล้เคียงไม้แบดมินตันในระดับท๊อปเลย และด้วยราคา Lining AXFORCE Bigbang 7U อยู่แถวๆ 3 พันบาทมีทอน มันถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ เหมาะกับมือใหม่จนถึงมือผู้เล่นที่มีทักษะประมาณนึงแล้ว แต่ต้องการหาไม้แบดมินตันสายบุกที่ตีง่ายบุกดี รับดี สวนดาดไวๆ

 

ข้อแนะนำ : ไม้แบดมินตันสายบุกอย่าง Lining AXFORCE Bigbang 7U สามารถใช้ได้ (ง่ายมาก) ตั้งแต่มือใหม่ทั้งหญิงและชายเลย เพราะตีง่ายมากและราคาก็คุ้มค่ามาก แต่ไม่เหมาะกับคนที่ซีเรียสเรื่องการบุกที่ต้องการน้ำหนักตบมาก ๆ แม้ว่าเจ้า AXFORCE Bigbang อาจจะให้น้ำหนักในการบุกไม่เท่ารุ่นอื่นแต่มันทำให้คุณบุกได้อย่างต่อเนื่องและไม่เกิดอาการบาดเจ็บจากการเล่นแบดมินตัน

 

 

หมิว พรปวีณ์ คว้าแชมป์แบดมินตันสวิส โอเพ่น แชมป์ในรอบ 3 ปี

การแข่งขันแบดมินตันรายการโยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2023 ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ ที่เซนต์จาค็อบ ชาลเล่ เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา

.

หมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับที่ 6 ของรายการ มืออันดับ 11 ของโลก พบกับ เมียร์ บลิดเฟลดท์ มืออันดับ 23 ของโลก จากเดนมาร์ก สำหรับสถิติการพบกันมาของทั้งคู่ 2 ครั้ง เป็นทาง หมิว พรปวีณ์ เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ทั้ง 2 ครั้ง

.

เกมแรก หมิว พรปวีณ์ ออกนำ 8-6 แต่บลิดเฟลดท์ ไล่ขึ้นมาแต่แล้วหมิว เร่งเกมบุกนำในครึ่งเกมแรกที่ 11-10 ครึ่งเกมหลัง ผลัดกันทำแต้มได้ตลอดจนเสมอกันที่ 15-15 ในช่วงท้าย หมิวเล่นได้เหนือกว่าปิดเกมแรกไปด้วยสกอร์ 21-16 ขึ้นนำไปในเกมแรก

.

เกมที่สอง บลิดเฟลดท์ เริ่มต้นได้ขึ้นนำหมิว 4-1 ในเกมนี้บลิดเฟลดท์เล่นได้อย่างดุดันนำห่างหมิวที่ 17-13 แต่ หมิวสามารถกลับสู่เกมได้สำเร็จ ทำ 6 แต้มรวด พลิกนำ 17-19 หลังจากนั้นหมิวก็ปิดเกมไปอย่างสวยงาม 21-18 เอาชนะไปได้ 2-0 เกม

.

ทำให้หมิวคว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์ รายการที่ 2 ของตัวเองได้สำเร็จ นอกจากนี้ หมิว พรปวีณ์ เป็นนักแบดหญิงเดี่ยวไทยคนที่ 2 ในรอบ 64 ปี นับตั้งแต่ ประเทือง ปัตตพงศ์ ในปี 1959

.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา: Siamsport

หาโค้ชที่ใช่กับตัวเรา ช่วยพัฒนาได้มากกว่า

โค้ช หรือ ผู้ฝึกสอนเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับนักกีฬาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาที่เพิ่งเริ่มต้นหรืออยู่ในระดับแข่งขัน การที่นักกีฬามีโค้ชที่ใช่หรือเหมาะสมกับธรรมชาติของนักกีฬานั้นเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาทักษะ ความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ รวมถึงการไปแข่งขันเพื่อคว้าชัยชนะ ดังนั้นเราจึงควรมองหาโค้ชที่เเหมาะกับเรา แต่จะหาโค้ชที่ใช่อาจเป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิด วันนี้เรามีข้อแนะนำในการค้นหาโค้ชมาฝากค่ะ
Japan’s men doubles coach Tan Kim Her react during training session for the Malaysian Masters at Axiata Arena, Bukit Jalil. FAIHAN GHANI/The Star.

 

Japan national coach Jeremy Gan react during Japanese national team training before the Malaysian Open at Academy Badminton Malaysia, Bukit Kiara, Kuala Lumpur. FAIHAN GHANI/The Star.

 

📌กำหนดเป้าหมาย: โค้ชแต่ละท่าน อาจมีแนวทาง เทคนิค และวิธีการสอนที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งวิธีการสอนรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอาจจะไม่เหมาะกับธรรมชาติของทุกคน (no one size fits all) โค้ชบางคนอาจให้ความสำคัญกับเทคนิคและการพัฒนาทักษะ ในขณะที่บางคนอาจให้ความสำคัญกับความแข็งแรงและการปรับสภาพร่างกาย ดังนั้นเราควรตั้งเป้าหมายก่อนว่าต้องการพัฒนาด้านใด และโค้ชท่านใดบ้างที่มีความถนัดตามที่มองหา
📌ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ: ประสบการณ์ของโค้ชเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรนำมาพิจารณา เช่น โค้ชบางท่านมีอาจะมีความถนัดสอนเด็ก สอนผู้ใหญ่ หรือเน้นทางสอนนักกีฬา หรือโค้ชบางท่านอาจจะมีประสบการณ์ที่หลากหลายสามารถสอนได้หลายระดับฝีมือและอายุ
📌ค่าใช้จ่าย: โค้ชแต่ละคนอาจจะมีอัตราการสอนที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะโค้ชที่มีประสบการณ์หรือเชี่ยวชาญเฉพาะทางพิเศษ ดังนั้นอาจจะมองหาโค้ชที่มีความเชี่ยวชาญตรงตามที่เป้าหมาย และอยู่ในอัตราที่เหมาะสมกับคุณ

📌เคมี: ความสัมพันธ์ระหว่างนักกีฬาและโค้ชมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งโค้ชที่เหมาะกับธรรมชาติของนักกีฬาจะทำให้รู้สึกสบายใจและปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นและให้กำลังใจได้ในระหว่างการซ้อม และการแข่งขันได้

การค้นหาโค้ชหรือผู้ฝึกสอนที่เหมาะสมกับธรรมชาติและตอบสนองเป้าหมายของนักกีฬาเป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาทักษะในทุกระดับ นอกจากโค้ชจะเป็นครูผู้ให้ความรู้แล้ว โค้ชยังเป็นกำลังใจและเป็นเพื่อนร่วมทางของนักกีฬาในการมุ่งสู่เป้าหมายและความสำเร็จอีกด้วย
Japan national coach Tan Kim Her (in red) with Japan head coach Park Joo Bong (in blue) react during Japanese national team training before the Malaysian Open at Academy Badminton Malaysia, Bukit Kiara, Kuala Lumpur. FAIHAN GHANI/The Star.
🏸จุดเริ่มต้นของคนที่เพิ่งเริ่มเล่น เราอยากเป็นเพื่อนเล่นแบดมินตัน With you along the way
Jongnow จองนาวศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น
Jongnow : The ultimate sport hub to help enjoy the sport you love even more.

วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ โชว์ฟอร์มดีคว้าแชมป์ชายเดี่ยว โค่นวิกเตอร์ ชายเดี่ยวมือ 1 โลก

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ วิว-กุลวุฒิ ที่ผงาดฟอร์มโค่นวิกเตอร์ แอกเซลเซน นักแบดชายเดี่ยวมือ 1 ของโลก ที่เชื่อว่า ณ เวลานี้ การเอาชนะวิกเตอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

 

ในการแข่งขัน Yonex Sunrise India Open 2023 ประเภทชายเดี่ยว น้องวิว-กุลวุฒิ นักแบดมินตันชายเดี่ยวของโลกมืออันดับ 8 ได้เอาชนะ วิกเตอร์ แอคเซลเซน นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 1 ของโลกด้วยคะแนน
20-22,21-10,12-21

 

โดยแข่งกันถึง 3 เซ็ต ในแต่ละเซ็ตไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ในเซ็ตแรกวิวเริ่มต้นได้ดีมากทำคะแนนเกาะกับวิคเตอร์มาโดยตลอดและออกนำได้ในบางช่วงด้วย รูปเกมส์เป็นไปในรูปแบบที่วิวแทบจะไม่ยกลูกให้วิคเตอร์เลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ วางลูกออกซ้ายขวาหน้าและมีเกมส์รับที่เหนี่ยวแน่นมากๆ ทำให้วิคเตอร์เล่นค่อนข้างยาก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเกมส์ก็ดำเนินไปอย่างสูสีมากจนถึงดิว แต่สุดท้ายวิวก็เร่งแซงปิดเกมส์แรกไปได้ 20-22

 

ในเกมส์ที่สอง เริ่มต้นได้สูสีในช่วงต้นๆเกมส์เท่านั้น ในเกมส์นี้วิวพลาดเองง่ายและปล่อยให้วิคเตอร์ได้บุกอยู่ตลอดทั้งเกมส์ ประกอบกับความเร็วของวิวที่ลดลงไปจากเกมส์แรก เลยทำให้วิคเตอร์ปิดเกมส์ไปอย่างง่ายดาย ตามมาตีเสมอเป็น 1-1 เกมส์ด้วยสกอร์ 21-10

 

ในเกมส์ตัดสิน ในช่วง 11 แต้มแรกเกมส์กลับมาเป็นเหมือนในเกมส์ที่ 1 คือวิวรับเหนียวแน่นรวดเร็วและเอาลูกลงเร็วจนวิคเตอร์หาจังหวะบุกยากมาก ทำให้วิคเตอร์เองก็เริ่มมีการออกลูกผิดพลาดบ้างในช่วงนี้ ส่งผลให้วิวปิดช่วงแรกออกนำก่อนแต่ก็ถือว่ายังค่อนข้างสูสี แต่พอเปิดครึ่งหลังของเกมส์วิคเตอร์มีความผิดพลาดเองเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะมาก และวิวก็สามารถคุมจังหวะเกมส์ได้ดีมากจนจบ ทำให้วิวสามารถเอาชนะวิคเตอร์ไปได้ในเกมส์นี้ 12-21

 

ส่งผลให้วิวคว้าเเชมป์รายการนี้ได้โดยชนะไป 2-1 เกมส์ในสกอร์รวม 20-22,21-10,12-21

 

 

 

 

ขอฝากแฟน ๆ แบดมินตันชาวไทย ช่วยกันส่งกำลังใจไปให้นักกีฬาแบดมินตันจากไทยคลื่นลูกใหม่ไฟแรง วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยทุกคน ในทุกแมตซ์การแข่งขันด้วยค่ะ

 

เหตุผลที่เราตีเสียเป็นประจำ โดยไม่ได้ตั้งใจ

เคยเป็นไหม วันที่ตั้งใจชนะดันแพ้ แต่วันที่ไม่ได้คาดหวังกลับ ชนะ! สิ่งที่นักแบดทุกคน ไม่ว่าจะมือสมัครเล่น หรือ มืออาชีพ พบเจอเป็นประจำคือ การตีเสียง่ายๆ ในลูกที่ไม่ควรเสีย (unforced error) หรือลูกที่เป็นลูกทำคะแนน ทั้งตีติดเน็ต ลอดเน็ต ตีออก หรือแม้การ ตีวืด! ซึ่งทำให้เราต้องมาหงุดหงิด เสียอารมณ์จนบางทีอาจจะทำให้แพ้เลยก็เป็นไปได้ทั้งๆ ที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว 😡
♦️ มาดู 3 เหตุผลที่ส่งผลกับการตี (เสีย) ของเรา
1. รู้สึกกดดัน เครียด – ความรู้สึกกดดัน ไม่ว่าจากตัวเองที่รู้สึกว่าต้องตีให้เพอร์เฟค ให้ลงเส้น สวยงาม 100% มักจะทำให้เราตีเสีย คู่ขาเราอาจจะเริ่มหงุดหงิด ยิ่งเราตีเสีย ยิ่งกดดันมากขึ้นไปอีก ลองลดความเป้ะลง เช่น เวลาเซฟหลังไม่ต้องกะให้ลงเส้นหลังเป้ะๆ เล็งให้เลยเส้นในมาหน่อย โดยเฉพาะผู้ชาย ซึ่งมีความแข็งแรง โอกาสตีออกค่อนข้างสูง
2. ขาตาย ไม้ตก – เมื่อเรามัวแต่คิดถึงลูกที่ตีเสียไป หรือกังวลกับคะแนน เราจะขาตาย เพราะมัวแต่คิดถึงลูกถัดไปที่เราจะตี พอคู่แข่งออกลูกคืนมา เราก็ไปรับไม่ทัน ตีลูกเสียเปรียบไปอีก วนเป็นวงจรเดิม เพิ่มความกดดัน ดังนั้นลองกลับมาโฟกัสที่ขา และการตั้งรับให้ดี จะทำให้เราออกตัวไปรับลูกได้เร็วขึ้น และมีเวลาในการเปลี่ยนเป็นเกมได้เปรียบ
3. Footwork + Handwork ผิด – เทคนิคที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทั้งการเคลื่อนไหว footwork และการ handwork ตีลูก ว่าเราจะตีเสียหรือไม่ เช่น เมื่อ footwork เราไม่ดี ทำให้เราเคลื่อนตัวไปช้า ไม่สามารถตีลูกในจุดที่เหมาะสม ยิ่งถ้า handwork ไม่แม่นด้วย จะเพิ่มโอกาสในการตีเสียมากขึ้น เช่น ใช้แบคแฮนรับลูกโฟร์แฮนด์ สำหรับนักกีฬาที่ชำนาญ​อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับมือใหม่ หรือคนที่ยังไม่ชำนาญ อาจจะทำให้ตีเสียเปรียบมากกว่าการรับโฟร์แฮนด์ปกติ
การที่เราจะลดลูกเสียได้คือ การฝึกฝนเป็นประจำ ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง และอย่ากดดันตัวเอง (และคู่ขา) จนมากเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วเราทุกคนมาตีแบดเพราะรักในกีฬาแบดมินตัน และรู้สึกสนุกกับการที่ได้ออกแรงตบ ดังนั้นอาจจะลองเปลี่ยนเป้าหมายในการตีเป็นการตีอย่างสนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะและความสุขกับเพื่อนๆ แต่อย่าลืมการฝึกฝนลูกที่เราตีเสียบ่อยๆ จะได้ลดความกดดันไปด้วยค่ะ