วิเคราะห์ ” ตัวเต็ง “รายการ World Tour Finals Badminton 2024 กับ อ.เจี๊ยบ ธนัช อัศวนภากาศ

ทาง Jongnow ได้รับเกียรติพูดคุยกับแขกรับเชิญสุดพิเศษของวงการแบดมินตันอย่าง อ. เจี๊ยบ ธนัช อัศวนภากาศ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย และ ผู้บรรยายแบดมินตันประเทศไทย ในหัวข้อวิเคราะห์ ” ตัวเต็ง ” รายการ World Tour Finals Badminton2024
.
ความคิดเห็นของอาจารย์เจี๊ยบกับ รายการ World Tour Finals 2024 ในปีนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ผมมองว่ารายชื่อนักกีฬาในปีนี้กร่อยกว่าทุกๆปี เพราะมีหลายคู่หลักรีไทร์จากการบาดเจ็บหรือมีการแยกคู่ไป  และ มีหยุดพักผ่อนสำหรับเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายเพื่อรอแข่งปีหน้า ซึ่งรายการ World Tour Finals 2024 เป็นรายการที่คัดมาแค่ 8 คู่ ที่เก็บคะแนนมาจาก 14 รายการที่ดีที่สุดมาบวกลบกัน คู่ไหนหรือใครที่มีคะแนนอยู่ลำดับที่ 1-8 ตามตารางอันดับโลกก็จะได้เข้ามาเล่นในรายการนี้ แต่มีข้อแม้ว่าถ้า 1-8 มีชาติเดียวกัน 3 คู่ ก็จะต้องถูกตัดให้เหลือแค่ 2 คู่ และ ชาติอื่นในลำดับถัดไปก็จะขึ้นมาแทนที่ ซึ่งต้องบอกว่าปีนี้นักกีฬาไทยไปน้อยที่สุด ในรอบหลายปี เพราะไปแค่ ประเภทชายเดี่ยว 1 คน คือ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ ประเภทหญิงเดี่ยว 2 คน คือ เม ศุภนิดา เกตุทอง กับ ครีม บุศนันทน์ อึ๊งบํารุงพันธุ์”

.

อาจารย์เจี๊ยบมองว่าใครคือมีโอกาสจะเป็นดาวรุ่งดวงต่อไปของทีมชาติไทย?

“ถ้าคู่ผสม บาส กับ เฟรม เป็นการจับคู่ที่มาดี ได้มา 2 แชมป์แล้ว แต่ต้องรอดูในระยะยาวต่อไปชายเดี่ยวมองว่าเป็นประเภทที่แข็งมาก เพราะในปัจจุบันการแข่งขันมันสูง แต่ถ้าให้มองไปถึงอนาคตคือ อิคคิว ก็มีโอกาส หญิงเดี่ยวตอนนี้ก็ยังมี 4 สาว เมย์ หมิว เมย์(ซ้าย) ครีม ที่โลดแล่นอยู่ ถ้าอนาคตมองไปถึงน้องแครอท น้องพิงค์ ถ้าสภาพร่างกายพร้อมก็ขึ้นมาได้ ส่วนชายคู่เป็นสิ่งที่ยากเพราะมือหน้าเราไม่เด่นขนาดนั้น แต่ตอนนี้มีสกายที่คู่กับบาสก็มาดีพอไปได้ แต่เป็นห่วงบาสที่เล่นสองประเภท อาจจะลำบากหน่อย โอโม่กับพี ก็พอได้”

.

มาในส่วนของ world tour final 2024 ในปีนี้ อาจารย์เจี๊ยบมองว่าใครมีโอกาสเป็นตัวเต็งแชมป์ของปีนี้?
.

MIXED DOUBLES คู่ผสม ปีนี้กร่อยกว่าทุกปี เพราะ 4 คิงไม่มี แต่มี Zheng Siwei / Huang Yaqiong ที่มาต้องมาดูว่าความพร้อมจะมีมากแค่ไหน

Group A ผลการแข่งขันเต็ง 1 ก็ต้องให้เขา Zheng Siwei / Huang Yaqiong คู่จักวาล ทีนี้ต้องมารอดู Jaing Zhen Bang / Wei Ya Xin ตัดกับ Tang Chun Man / Tse Ying Suet ก็เลยตั้งสมมุติฐานว่า คู่จีนน่าจะเข้าไปเป็นที่ 1 ที่ 2 ของกลุ่ม A

Group B  คู่ที่เต็งจ๋าคิดว่าเป็นมาเลเซีย ทั้งสองคู่คือ Gho Soon Huat / Lai Sshewon Jemie กับ Chen Tang Jie / Tho Ee Wei  ส่วนคู่ของ Dejan Ferdinansyah / Gloria  Wid JaJa น่าจะที่สามของกลุ่มส่วนคู่ของ Hiroki Midorikawa / Natsu Saito มองเป็นที่สุดท้ายของกลุ่ม B เลย แต่ถ้าเกิดการไขว้สาย มองยากมากแต่ยังไงแล้วก็มองว่าจีนชิงกันเอง ให้เครดิต  Zheng Siwei / Huang Yaqiong แต่ถ้าสภาพร่างกายไม่พร้อมก็แยกย้าย

 

 

WOMEN’S DOUBLES หญิงคู่ เป็นประเภทที่ไม่มีนักกีฬาไทยเลย แต่ต้องจับตาดูคู่ Chen QingChen / Jia Yifan ที่พักไปนานว่าความพร้อมของร่างกายมากน้องเพียงใด

Group A เป็นกรุ๊ปที่แข็งมากๆ คู่ Liu Sheng Shu / Tan Ning นี่แกร่งสุดๆยังไงก็ต้องเต็งหนึ่ง ส่วนที่สองรักพี่เสียดายน้อง คู่ Chiharu Shida / Nami Mutsuyama กับคู่ Pearly Tan / Thinaah Muraltharan ก็ดีแต่ถ้าความสดต้องให้คู่ของ Pearly Tan / Thinaah Muraltharan เพราะว่า Nami Mutsuyama ช่วงนี้ดูฟอร์มแกว่งๆ  ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

Group B คู่ของ F. Kusuma / A. Pratiwi นี่ตัดได้เลยไม่น่ามาส่วนคู่ของ Baek Ha Na / Lee So Hee ฟอร์มหลุดแต่ก็ต้องยอมรับว่ายังดีกว่า Rin Iwanaka / Kie Nakanlshi ถ้าสภาพร่างกาย  Baek Ha Na / Lee So Hee สมบูรณ์นะ ส่วนคู่ของ Chen QingChen / Jia Yifan นี่ลอยลำเต็งอันดับ 1 ส่วนคู่ Baek Ha Na / Lee So Hee มาเป็นที่ 2

.

 

 

.

 

MEN’S DOUBLES ชายคู่ เป็นประเภทที่แอบกร่อยๆ อยู่เหมือนกันเพราะมือต้นๆของโลกไม่มา อย่าง Liang Wei keng / Wang Chang, Kang Min Hyuk / Seo Seung Jae ที่เป็นคู่อดีตมือ 1 ของโลกไม่มาสักคู่เลย

Group A ให้คู่ของ Kim Astrup / Anders Skaarup Rasmussen เป็นที่ 1 ของสายส่วนที่สองคงเป็น Goh Sze Fei / Nur Izzuddin ส่วนคู่ไทเปสองคู่มองว่าไม่หน้าไหว ฟอร์มบางทีมีหลุดง่ายๆ

Group B ผมตัดคุ่อินโดเป็นคู่แรกเลยคือคู่ของ S. Gutama / M. Isfahani ถ้าเต็งสุดให้คู่ของ Aaron Chai / Soh Wooi Yik   เพราะมาดี  ส่วน He Ji Ting / Ren Xian Yu เป็นอันดับ 2  แต่เบียดกันกับคู่ F Alfian / M Ardianto  ถ้าให้เต็ง 1 Aaron Chai / Soh Wooi Yik  ที่ 2 เป็น He Ji Ting / Ren Xian Yu

 

.

WOMEN’S SINGLES หญิงเดี่ยว มีไทยสองคน อย่าง บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ กับ ศุภนิดา เกตุทอง

Group A เป็นกรุ๊ปที่ยังไม่แข็งมาก เลยมองว่าบุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์  ไปตัดเข้ารอบกับ TunJung ได้ ถ้าจะให้เต็งที่ 1 คงให้  Wanng Zhi Yi ที่ 2 คือ TunJung ส่วน บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์มองเป็นม้ามืดมาปาด

Group B ตัดง่ายมากคนแรก คือ An Se Young เป็นคนที่เต็งทุกโพล ส่วนที่ 2 มองเป็น Akane Yamagushi  ถ้าร่างกายสภาพที่ดี มองไปถึงการชิงเลย ถ้าไม่ตัดกันเองในสายอาจจะได้เห็น An Se Young ชิงกับ Akane Yamagushi

.

 

 

.

MEN’S SINGLESชายเดี่ยว

Group A มองว่า หนักๆทั้งนั้นเลย คิดว่า Chou Tien Chen น่าจะต้านสามคนนั้นไม่ไหว เลยมองว่า Li Shi Feng กับ Anders Antonsen เข้าเป็นที่ 1 และที่ 2 ของกลุ่ม A

Group B ผมตัด Kodai Naraoka ไปคนแรกเลย ส่วน Jonatan Christie มีสิทธิสูงที่จะได้เข้าไป ส่วน Shi Yu Qi ก็น่าจะเข้าเหมือนกัน มาที่ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มองว่าความพร้อมในรายการนี้ไม่เต็มร้อย กุลวุฒิ วิทิตศานต์น่าจะไปเล่นเพื่อคะแนน มองว่าเป้าหมายของวิว กุลวุฒิคือรายการ All Englandในปีหน้า เพราะฉะนั้น ที่ 1 และที่ 2 ของสายก็คงเป็น Shi Yu Qi กับ Jonatan Christie

.

 

 

.

โดยทั้งหมดทั้งมวลเป็นการวิเคราะห์คาดการณ์  ผลจะออกมาตามนี้หรือแตกต่างออกไปจากนี้ก็สุดแล้วแต่การแข่งขันที่จะเกิดขึ้น ก็ให้เต็งแชมป์ตามประเภท คู่ผสม Zheng Siwei / Huang Yaqiong  หญิงคู่ Chen QingChen / Jia Yi Fan ชายคู่ อันนี้ยากเพราะแต่ล่ะคู่ก็สูสีในระดับฝีมือใกล้กัน หญิงเดี่ยวให้ An Se Young ชายเดี่ยวอันนี้ก็ยากเมื่อไม่มี Viktor Axelsen แล้วคิดว่าคงเป็น Anders Antonsen ท้ายที่สุดแล้วยังไงก็ต้องมารอดูความสมบูรณ์สภาพร่างกายของนักกีฬาด้วย

.

ทำไมต้องพันกริปที่ด้ามไม้แบดมินตัน?

หลายๆคนเคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเราถึงต้องพันกริปที่ด้ามไม้แบดด้วย เราสามารถแกะพลาสติกที่คลุมกริปเดิมติดไม้มาใช้เลยไม่ดีหรอ? จริงๆแล้ว กริปพันด้ามไม้แบดมีความสำคัญมากสำหรับการเล่นแบดมินตัน ผู้เล่นหลายๆคนถ้าเจอกริปพันด้ามที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง อาจทำให้ฟอร์มในการเล่นลดลงด้วยนะ
.
ประโยชน์ของการพันกริปที่ด้ามไม้แบดมินตัน
.
.

1.การพันกริปที่ด้ามไม้แบดช่วยให้จับไม้ได้ถนัด และ มั่นคง สิ่งแรกๆที่นึกถึงประโยชน์ของกริปคือ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะระหว่างมือของเรากับไม้แบดไม่ให้หลุดง่าย และ ยังช่วยให้จับไม้ได้ถนัดมือยิ่งขึ้น ส่งผลให้ช่วยประสิทธิภาพในการคอนโทรลลูกได้ดีขึ้นด้วย

 

2.การพันกริปที่ด้ามไม้แบด ช่วยลดการลื่นจากเหงื่อ เมื่อเราตีแบดไปสักระยะหนึ่ง หลายๆคนจะมีปัญหาเหงื่อที่ออกมาเยอะจนไม้ลื่น ควบคุมไม่ได้ กริปจึงเป็นพระเอกสำคัญในการช่วยซับเหงื่อและลดปัญหาเหล่านี้ได้ดีมากๆ ซึ่งสำหรับคนที่เหงื่อเยอะๆ ในปัจจุบันนี้ก็จะมีตัวเลือกเป็น กริปผ้า หรือ กริปยางที่ซับเหงื่อได้ดีเป็นพิเศษให้เลือกใช้ด้วยนะ

 

3.การพันกริปที่ด้ามไม้แบด สามารถปรับขนาดด้ามไม้ให้เหมาะกับมือผู้เล่น เพียงแค่การพันกริปที่ต่างกันก็สามารถปรับขนาดของด้ามไม้แบดให้เหมาะกับมือผู้ใช้ได้ และ เมื่อปรับด้ามไม้แบดให้เหมาะกับผู้ใช้งาน เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้มีความสนุกกับการตีแบดมากขึ้นได้

 

4.ลดแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บ กริปพันด้ามบางประเภทมีคุณสมบัติช่วยดูดซับแรงกระแทก ซึ่งช่วยลดอาการบาดเจ็บและดูดซับแรงกระแทกได้อีกด้วย

 

5.การพันกริปที่ด้ามไม้แบด ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเล่น เพียงแค่การจับไม้ที่มั่นคง และ รู้สึกสบายมือ ก็สามารถทำให้เรามีสมาธิ และ เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในระหว่างตีแบดได้อีกด้วย
.
ข้อควรระวัง! กริปพันด้ามไม้แบด มีหลายแบบ เช่น กริปยางแบบบาง แบบหนา และ กริปแบบผ้า จะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน เมื่อพันไปแล้วมีโอกาสทำให้ Balance Point ของไม้เปลี่ยนแปลงได้
.
นักแบดมือใหม่อย่าลืมให้ความสำคัญสำหรับการพันกริปที่ด้ามไม้แบดให้เหมาะสมกับมือของตนเองหล่ะ เพราะด้ามไม้แบดและกริป เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การตีแบดมินตันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นนะ
Jongnow พื้นที่ที่ทุกคนสามารถแบ่งปันความรักในกีฬาแบดมินตันได้ในแบบของตัวเอง มาร่วมสร้างความสุขในทุกเกมและเติมเต็มความสนุกในสนามไปด้วยกัน
.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

 

“บาส-เฟม” ล้มเจ้าถิ่น คว้าแชมป์แบดมินตันไซเอ็ด โมดี้

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ รายการ ไซเอ็ด โมดี้ อินเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300

.

ประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ
“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 85 ของโลก  พบกับ ดรุฟ คาปิลา กับ ทานิชา คาสโตร คู่มืออันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 66 ของโลกจากอินเดีย

.

 

 

.

เกมแรก คู่อินเดีย เปิดมาได้ดีกว่าคู่บาส-เฟม ทำให้อินเดียทำแต้มนำห่างก่อน 6-0 และ คู่บาส-เฟม เริ่มจับจังหวะเกมได้ทำแต้มไล่มาเป็น 5-9 แล้วคู่อินเดียก็มาปิดครึ่งมแรกได้ก่อนที่ 11-6 จากนั้นคู่บาส กับ เฟม แก้เกมได้ยอดเยี่ยม ขึ้นเกมได้เร็วขึ้น ทำให้กลับมาพลิกขึ้นนำได้เที่ 18-17 แต่ในช่วงปลายเกม คู่อินเดียมาทำ 4 คะแนนรวดจนปิดเกมแรกได้ไปก่อนที่ 21-18

.

 

 

.

เกมสอง คู่บาส-เฟม เริ่มเกมได้ดีกว่าหาจังหวะตบอยางเฉียบขาดออกนำก่อน 5-2 จากนั้นคู่บาส กับ เฟม คุมเกมบุกได้ดีกว่าปิดครึ่งแรกของเกมที่สองด้วยสกอร์ 11-6 เข้าสู่ช่วงครึ่งเกมหลัง บาส-เฟม เล่นเกมหน้าเน็ตและคุมพื้นที่ได้ดีออกนำยาวที่ 15-8 และเป็นทางด้านของบาส กับ เฟม รักษาฟอร์มการเล่นในเกมที่สองได้อย่างยอดเยี่ยม ปิดเกมไปได้ที่ 21-14 เสมอกัน 1-1 เกม ตัดสินกันที่เกมสุดท้าย

.

 

.
เกมตัดสิน บาส กับ เฟม เป็นฝ่ายหาจังหวะเข้าทำอย่างเฉียบขาดกว่าและทำแต้มอย่างต่อเนื่องนำในครึ่งเกมสองที่ 11-5 จากนั้นคู่บาส กับ เฟม เดินหน้าบุกใส่ชุดใหญ่ จนปิดแมตช์ไปได้ที่ 21-8 ทำให้เอาชนะไปได้ 2-1 เกม “บาส” เดชาพล กับ “เฟม” ศุภิสรา  คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์รายการที่ 2 ของทั้งคู่ ต่อจาก คุมาโมโตะ มาสเตอร์ส เจแปน พร้อมรับเงินรางวัล 16,590 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ  572,355 บาท

.

 

.

 

 

.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

 

บาส-เฟม ลุ้นแชมป์ที่ 2 รายการไซเอ็ด โมดี้ อินเดีย 2024

เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2024  ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ รายการ ไซเอ็ด โมดี้ อินเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 7,350,000 บาท ที่เมืองลัคเนา ประเทศอินเดีย มีนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยลงทำการแข่งขัน
.
ประเภทคู่ผสม รอบรองชนะเลิศ
“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 85 ของโลก พบกับ เหลียว พินยี่ กับ หวง เคซิน คู่มืออันดับ 345 ของโลกจากจีน

เกมแรก คู่บาส กับ เฟม เปิดเกมได้ดีมากๆ ทำคะแนนทิ้งห่างตลอดทั้งเกม ก่อนที่จะปิดเกมแรกไปแบบไม่ยากเย็นที่ 21-11 จากนั้นเกมที่สอง ยังคงเป็นคู่ บาส กับ เฟม ที่คุมเกมได้อย่างเหนียวแน่นจนมาปิดแมตช์ เอาชนะในเกมที่สองไปได้ที่ 21-13 ทำให้ “บาส” เดชาพล  กับ “เฟม” ศุภิสรา ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์ที่ 2 ของทั้งคู่ โดยจะไปพบกับ ดรุฟ คาปิลา กับ ทานิชา คาสโตร คู่มืออันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 66 ของโลกจากอินเดีย
.


.

 

.
ประเภทหญิงคู่ รอบรองชนะเลิศ  
“อันนา” นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 25 ของโลก ทำผลงานได้อย่างเต็มที่แล้ว พลาดท่าแพ้ให้กับ เทรสซ่า โจลลี่ กับ พูเรลล่า โกปีชาน คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากอินเดีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม ผลสกอร์ 21-18 ,18-21 และ 10-21
.

.

 

.

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ

“จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 94 ของโลก พบกับ หวู หลัวหยู มืออันดับ 119 ของโลกจากจีน เกมนี้ จิว ลลินรัศฐ์ เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ทำแต้มทิ้งห่างก่อน แต่มาพลาดท่าเสียคะแนนเป็นชุดจนแพ้ในเกมแรกที่ 19-21 จากนั้นในเกมที่สอง หวู หลัวหยู กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ทำให้  “จิว” ลลินรัศฐ์ แพ้ไปที่สกอร์ 12-21 สิ้นสุดการแข่งขันไว้ที่รอบรองชนะเลิศ
.

.

.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

 

ผลการแข่งขัน ทัพลูกขนไก่ไทย รายการ China Masters รอบ 16 คนสุดท้าย

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2024 การแข่งขันแบดมินตันรายการ หลี่หนิง ไชน่า มาสเตอร์ส 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,150,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 40,250,000 บาท ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน
.

ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง

“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 5 ของรายการ มืออันดับ 5 ของโลก พบกับ หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 25 ของโลกจากไต้หวัน ในเกมนี้ทั้งสองคนพลัดกันทำแต้มกันได้สูสี แต่ วิว กุลวุฒิ จับจังหวะได้ และ สามารถเอาชนะไปได้ทั้งสองเกม เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย โดยเข้าไปพบกับ Shi Yu Qi มือ 1 ของโลกจากจีน และชัยชนะในครั้งนี้ ทำให้ วิว กุลวุฒิการันตี ไปเล่นแบดมินตันรายการส่งท้ายปีอย่าง เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2024 ช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ แน่นอนแล้ว
.

 

 

.

ประเภทคู่ผสม รอบสอง
“เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 171 ของโลก แพ้ Yang Po Hsuan กับ Hu Ling Fang คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 เกม 23-21 , 12-21 และ 18-21

.

 

 

.

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบสอง 

หมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับที่ 15 ของโลก เอาชนะ Lin Hsiang Ti มืออันดับ 20 ของโลก จากไต้หวัน ไปได้ 2-0 เกม ผลสกอร์ 21-17 และ 21-9 เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ Gao Fang Jie มืออันดับที่ 28 ของโลกจากจีน

.

 

 

.

ทางด้านของ เม ศุภนิดา วันนี้ฟอร์มเดือด ตบเอาชนะ Malvika Bansod มืออันดับที่ 36 ของโลกจากอินเดีย ไปแบบขาดลอย 2 เกมรวด ผลสกอร์ 21-9 และ 21-9 เม ศุภนิดา เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ Yeo Jia Min มืออันดับที่ 13 ของโลกจากสิงคโปร์

.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

 

 

บาส-เฟม คว้าแชมป์แรก รายการ Kumamoto Masters Japan 2024

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 17 พฤศจิกายน 2024 มีการแข่งขันแบดมินตันรายการ Kumamoto Masters Japan 2024 รอบชิงชนะเลิศ มีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขัน
.
ประเภทคู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ

เป็นการจับคู่กันของคู่ผสมแบดมินตันคู่ใหม่ของไทยมือเก๋าอย่าง “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน ลงสนามพบกับ Thom Gicquel และ Delphine Delrue คู่มือ 22 โลกจากฝรั่งเศส

.

 

 

.

เกมนี้ บาส กับ เฟม สู้กับคู่ฝรั่งเศสอย่างดุเดือด และเล่นเป็นทีมเวิร์กกว่า ก่อนจะเบียดเอาชนะไปแบบหวุดหวิด 2-1 เกม 21-16, 10-21 และ 21-17 คว้าแชมป์ ในระดับเวิลด์ทัวร์เป็นรายการแรก ในการจับคู่กัน  พร้อมรับเงินรางวัล 33,180 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ  1,161,300 บาท

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

 

แนะนำ 10 ไม้แบดมินตันที่ตีง่าย คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋า

 วันนี้ Jongnow มาแนะนำไม้แบดมินตันที่ตีง่าย ตีสบาย คุ้มค่า ในงบประมาณ 1,xxx – 4,xxx บาท ไม่ว่าจะมือใหม่ มือมุ้งมิ้ง มือเก๋า ก็ตีได้หมด ตีสบายของแทร่!
หมดปัญหาดูรีวิวไม้แบดจนตาลาย สุดท้ายยังไม่รู้จะซื้อไม้ไหนอยู่ดี?! เลือกมาให้แล้วทั้งหมด 10 ไม้ ที่ทีมงาน JONGNOW ได้ทดลองใช้จริง และลงความเห็นว่าคุ้มค่า คุ้มราคา ที่สำคัญคือใช้ได้ทั้งมือใหม่และผู้ที่คร่ำหวอดในวงการมานาน!
.
1.Lining Axforce Cannon ราคา 2,xxx บาท
.
.
Specification
Weight: 4U/G5 | 5U/G6 | 6U/G6
Balance: Head Heavy
Shaft Flexibility: Flexible 5U/6U, Medium 4U
Max Tension : 27-32 lbs
Frame Material : Dynamic Optimum Frame
.
Axforce Cannon ไม้สายบุกยอดฮิตจากแบรนด์ Lining เป็นไม้ที่ของเข้ามากี่รอบก็หมดไวทุกรอบ ฮิตฮอตเหมือนกับแดดประเทศไทย สเปคไม้ 4U ก้านกลาง หัวหนัก เหมาะกับผู้ชายสายบุก
ส่วนสเปคของ 5U และ 6U จะเป็นไม้ก้านอ่อน หัวหนัก เหมาะกับผู้หญิงมือเริ่มต้น ที่อยากหาไม้ช่วยส่งแรงถึงหลัง และยังบุกได้โดยที่ก้านไม่แข็งมากจนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นไม้ที่ทำสเปคมาให้ครบทุกมือที่เล่นแบดมินตันกันเลยทีเดียวเชียว
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/9qi45sHghVE?si=1_pUo5jN0jEBIsQ1
.
2.Lining SS100 Superlite ราคา 1,xxx บาท
.
.
Specification
Weight : 4U
Balance : 292-295 mm
Shaft Flexibility : Medium-Flexible
Max Tension : 28 lbs
Frame Material : High Resilience Graphite+Nano Resin
.
ไม้แบดมินตันรุ่นใหม่สำหรับมือใหม่จาก Lining อย่าง Super Series 100 ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก Super Series99 เหมาะสำหรับมือเริ่มต้นไปจนถึงมือระดับกลางๆ เพราะหัวไม่ได้หนักจนเกินไป ก้านอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้อ่อนเกินไปและไม่ได้แข็งจนตีไม่ได้ ฟีลลิ่งของไม้ก็ไม่ได้รู้สึกกระด้างจนเกินไป(ไม่นุ่มเท่าไม่ท็อปนะ) ลูกเซฟทำได้ง่าย ลูกบุกก็ทำได้ดี นับว่าเป็นไม้อีกรุ่นหนึ่งที่อยู่ในตัวเลือกสำหรับไม้เริ่มต้น
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/HdQgbtMMN1s?si=nQdYLuRlwCZVA-eb
.
3.Victor Auraspeed 8000 ราคา 1,xxx บาท
.
.
Specification
Weight : 4U
Balance : 293+- 3mm
Shaft Flexibility : Medium-Flexible
Max Tension : 30 lbs
Frame Material : High Resilience Graphite+Nano Resin
.
ไม้จากแบรนด์ Victor อย่าง Auraspeed 8000 เป็นไม้ที่ได้นำเทคโนโลยี Freecore ใส่มาด้วย สีสันสวยงาม ตีง่าย ปรับตัวไม่ยาก พอเห็นสีสันของไม้เรียกได้ว่ารุ่นนี้ต้องเป็นขวัญใจของใครหลายๆคนแน่นอน
.
4.Victor TK-HMR ราคา 2,xxx บาท
.
.
Specification
Weight :4U/G5 , 5U/G6
Balance : Head Heavy
Shaft Flexibility : Flexible
String tension LBS : 4U≦32 lbs, 5U≦31 lbs
Frame Material:Graphite
.
เป็นไม้แบดรุ่นยอดฮิตอีกรุ่นหนึ่ง แอดเชื่อว่ามือใหม่หลายๆคนที่กำลังมองหาไม้แบดไม้แรกจะต้องเห็นรุ่นนี้แน่นอนหรืออาจจะมีอยู่ในคลังที่บ้านแล้วด้วย เพราะความเข้าถึงง่าย สีสันโดดเด่น แถมยังตีง่าย ก้านอ่อนหัวหนัก ทำให้ช่วยส่งแรงได้ดี ตีสบายมือไม่ต้องใช้แรงเยอะ
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/f2tEO097rZ0?si=QKVMkUUSHW_zMMp9
.
5.Lining Tectonic 3R ราคา 2,xxx บาท
.
.
Specification
Weight : 79,82 grams
Balance Point : 310 mm
Balance : Head Heavy
Shaft Flexibility : Flexible 6.8 mm.
Racket Grip Size : G6
Tension : ≤ 27 LBS (pounds)
.
ไม้สายบุกที่บุกสนุกมาก แล้วตีเข้ามือง่ายมากๆ ตัวนึงของ Lining ฟิลตอนตบจะแน่นๆเลย เซฟสบาย มีทั้ง นน 4u และ 5u เป็นไม้หัวหนัก balance point 310 mm ก้านค่อนมาทางอ่อน ให้แรงดีดดีมาก
กริ๊ป G6 ถ้าชอบบุกหนักๆ เลือกตัว 4U ค่ะ แต่ถ้าชอบแบบบุกสนุก ได้ต่อเนื่อง มีความคล่องตัว เลือกตัว 5U เป็นไม้หัวหนัก balance point 310 mm ก้านค่อนมาทางอ่อน ที่ให้แรงดีดดีมากเหมาะกับมือใหม่ที่อยากหาไม้สายบุกฟีลแน่นๆ
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/Rgf8urK6i6I?si=uDNCvXaawjYVQiMG
.
6.Victor Bravesword12 ราคา 3,xxx บาท
.
.
Specification
Weight: 4U
Balance: Balance
Shaft Flexibility: Medium
Max Tension : 28 lbs
Frame Material : Ultra High Modulus Graphite
.
Brave Sword12 เป็นไม้สาย All Around หน้าไม้ไว ให้แรงส่งได้ดี เกมบุกจัดว่าเกินมาตรฐานของไม้สาย Balance แต่ไม่หนักเท่าไม้ที่เกิดมาเพื่อเป็นสาย Power เกมรับถือว่าทำได้ง่ายเพราะหน้าไม้ไว ตีสบายไม่ล้าแขน
.
7.Mizuno JPX 8 Zoom ราคา 3,xxx บาท
.
.
Specification
Weight: 4U
Balance: Balance
Shaft Flexibility: Medium
Max Tension : 30 lbs
Frame Material : Japan HMG T40
.
JPX 8 Zoom เป็นไม้สาย All Around ที่ตีง่าย ตีสบายเล่นได้ทั้งเกมบุกและเกมรับ เฟรมไม้เป็นเฟรมตัดอากาศ ทำให้ไม้มีความคล่องตัวสูงมากขึ้นไปอีก ยกไม้ได้ไว และที่สำคัญคือความกระด้างน้อยมากๆ ตีสบายสุดๆ
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/-ySMQ2BoNH8?si=oBNIDBdkTWpvPbdV
.
8.Mizuno Altius 02 Solear ราคา 4,xxx – 5,xxx บาท
.
.
Specification
𝐖𝐞𝐢𝐠𝐡𝐭: 𝟒𝐔 𝐆6
𝐁𝐚𝐥𝐚𝐧𝐜𝐞: Head Light
Shaft Flexibility: Flexible
𝐌𝐚𝐱 𝐓𝐞𝐧𝐬𝐢𝐨𝐧: 27 lbs
Frame Material : HM Graphite
.
จุดเด่นเป็นไม้ที่เห็นแว๊บแรกต้องชมก่อนเลยว่าสีสวยมากจริงๆ ตีง่าย ตีสบาย มือใหม่ เด็ก ผู้หญิง ตีได้สบายๆ แต่เกมบุกตัวนี้จะไม่ดุดัน เน้นความคล่องตัว เน้นแจกลูกเป็นหลัก ลูกเซฟ ลูกงัดทำได้ดี ที่สำคัญคือนุ่มมือมากๆ แต่อาจจะไม่ถูกใจสำหรับสายบู๊สายทุบแน่นอนเพราะก้านอ่อนทำให้รู้สึกยวบ
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/2eCDvENjUqU?si=fI9HH14x_yqdri-g
.
9.Lining Halbertec 6000 ราคา 4,xxx บาท
.
.
Specification
𝐖𝐞𝐢𝐠𝐡𝐭: (𝟒𝐔𝐆𝟓) / (𝟓𝐔𝐆𝟔)
𝐁𝐚𝐥𝐚𝐧𝐜𝐞: 𝐄𝐯𝐞𝐧 𝐁𝐚𝐥𝐚𝐧𝐜𝐞
Shaft Flexibility: Medium
𝐌𝐚𝐱 𝐓𝐞𝐧𝐬𝐢𝐨𝐧: 𝟑𝟎𝐥𝐛𝐬 (𝟒𝐔) : 𝟐𝟗𝐥𝐛𝐬 (𝟓𝐔)
Frame Material : 𝐌𝐄𝐃 𝐇𝐢𝐠𝐡-𝐌𝐨𝐝𝐮𝐥𝐮𝐬 𝐆𝐫𝐚𝐩𝐡𝐢𝐭𝐞
.
Halbertec6000 ไม้สายคอนโทรลที่ตีง่าย ตีสบาย ไม่ล้า ผู้หญิงตีง่าย ผู้ชายตีดี เอาไปเล่นคู่ตีก๊วนสบาย มือไหนๆก็ตีได้ ไม่ต้องปรับตัวเยอะ และมีงบค่อนข้างสูงหน่อย Halbertec6000 ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเพราะน้องตีได้ทุกมือ(แต่อาจจะต้องเลือกน้ำหนักให้เหมาะสมกับตัวเราหน่อยนะเพราะมีทั้ง 4U และ 5U) ที่สำคัญคือสีสวยมาก(ก.ไก่ ล้านตัว)
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/GmqbfUlUe8s?si=F_K1B5p5W1VESM5r
.
10. Yonex Nanoflare Nextage 4,xxx บาท
.
.
Specification
𝐖𝐞𝐢𝐠𝐡𝐭: 𝟒𝐔 𝐆𝟓
𝐁𝐚𝐥𝐚𝐧𝐜𝐞: 𝐄𝐯𝐞𝐧 𝐁𝐚𝐥𝐚𝐧𝐜𝐞
Shaft Flexibility: Medium-Flexible
𝐌𝐚𝐱 𝐓𝐞𝐧𝐬𝐢𝐨𝐧: 28 lbs
Frame Material : HT Graphite
.
จุดเด่นคือตีง่าย มือใหม่ก็ตีได้ ไม่ต้องปรับตัวเยอะ แถมตัวนี้ยังได้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับรุ่นพี่ Nanoflare ตัวอื่นๆ สีสวยสะอาดตา ในส่วนของลูกดาดถือว่าดาดได้ดี คล่องตัว ลูกเซฟไม่ต้องใช้แรงให้เหนื่อยลูกก็ไปถึงหลังแล้ว แต่ในส่วนของเกมบุก ถ้าเป็นสายบุกสายทุบอาจจะไม่ถูกใจเพราะ ตบหวังผลให้ตายในไม้เดียวค่อนข้างยาก
.
คลิปรีวิวจากทางJongnow
https://youtu.be/7fPt5ulixwA?si=ZeXLqfrDLH-V0OJF
.
สุดท้ายนี้ อยากเน้นว่าไม้แบดมินตันที่เลือกมา เป็นไม้ที่เราได้ทดลองจริง ซึ่งอาจจะยังมีไม้รุ่นอื่นๆ ในราคาที่ใกล้เคียงอยู่ การที่เราเลือกไม้ให้เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสนุกกับการตีแบดมินตันได้มากขึ้นค่ะ
.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

เปรียบเทียบไม้แบดมินตันสายบุก Yonex Astrox 88D Pro Gen3 vs Yonex Astrox 100ZZ

วันนี้ Jongnow พามาเปรียบเทียบไม้แบดมินตันที่ใช้ในนัดชิงเหรียญทองชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์ แบบหมัดต่อหมัด ระหว่าง Astrox100zz ของ Viktor Axelsen VS Astrox 88D Pro Gen3 ของ วิว กุลวุฒิ กัน
.
สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้แบดมินตันรุ่น TOP  สายบุก ก้านแข็ง หัวหนัก จากค่าย YONEX และ กำลังอยากรู้ถึงความต่างของไม้แบดทั้ง 2 ตัวนี้ว่า แตกต่างกันอย่างไรไปอ่านกันได้เลย
.
1.วัสดุ และเทคโนโลยี
ก่อนจะไปถึงฟิลลิ่งการใช้งานจริงเมื่อได้สัมผัสทั้ง 2 ตัวในน้ำหนัก 4U เท่ากันทั้งคู่
.
Astrox 100 ZZ
.
.
เป็นไม้ที่ตัวก้านมีความแข็งมาก สเปคของ Yonex จะเขียนว่า Extra Stiff ส่วนตัวเฟรมใช้วัสดุที่ตัวท็อปหลายๆรุ่นมี เช่น High Modulus Graphite ที่เน้นความทนทานและยืดหยุ่นได้ดี, และยังมีเทคโนโลยี Namd ที่จะช่วยส่งแรงให้ลูกบุกมีวิถีพุ่งลงมากขึ้น, Tungsten, Black Micro Core, Nanometric ทำให้ตัวก้านมีน้ำหนักเบา ก้านไม้บางลง เพื่อช่วงส่งแรงดีดขณะที่ลูกกระทบกับไม้
.
ตัวเฟรมจะเป็นเฟรมผสมระหว่างเฟรมตัดอากาศและเฟรมแบบกล่อง นอกจากแรงบุกที่ดีแล้ว ยังได้สปีดความไวของหน้าไม้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
.
สำหรับไม้ 3U น้ำหนักไม้เปล่าจะอยู่ที่ 88 กรัม สามารถรับแรงตึงจากการขึ้นเอ็นได้สูงสุด 29 ปอนด์ ในส่วนนี้มองว่า ไม้รุ่นท๊อปในราคาแบบนี้ อาจจะมองว่าต่ำไปนิด ๆ สำหรับความแข็งแรงของนักกีฬาใช้เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ
.
ส่วนน้ำหนัก 4U น้ำหนักไม้เปล่าจะอยู่ที่ 83 กรัม รับแรงตึงจากการขึ้นเอ็นได้สูงสุด 28 ปอนด์
.
มีนักกีฬาคนไหนใช้รุ่นนี้กันบ้าง?
หญิงคู่จากจีนอย่าง Chen Qing Chen, ชายเดี่ยวจากจีน ฉียู่ฉี Shi Yuqi หญิงคู่จากญี่ปุ่น Wakana Nagahara , หญิงเดี่ยวฉายาตุ๊กตาล้มลุก จิ๋วแต่แจ๋วจากญี่ปุ่น อย่าง Akane Yamaguchi อีกคน และแชมป์โอลิมปิก 2 สมัยซ้อนอย่าง Viktor Axelsen
.
.
มาต่อกันที่สเปคของเจ้า Astrox 88D Pro Gen 3 
.
.
Astrox 88D Pro Gen 3 น้องใหม่ที่ออกมาหลัง Astrox 100 ZZ พอสมควร ถูกออกแบบมาให้มีความโดดเด่นในเรื่อง ความแม่นยำในการบุก เน้นการให้พลังในการบุกที่ดีเยี่ยม และยังคงความคล่องตัวที่เป็นจุดเด่นในไม้สายบุกมาตั้งแต่ Gen 2
.
ในเฟรมของไม้ก็ผลิตมาจากคาร์บอนไฟเบอร์เกรดสูงมากๆ เช่นเดียวกัน วัสดุหลักยังคงเป็น HM Graphite และมีการเพิ่มเติม CFR และ Tungsten เข้ามาเป็นส่วนประกอบเพื่อให้หน้าไม้มีความนิ่งไม่บิดตัวไปมา
.
บวกกับยังมีการใช้รูตาไก่แบบแผงร่วมด้านบนที่เรียกว่า CONTROL-ASSIST BUMPER ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักหัวไม้และช่วยจัดระเบียบเส้นเอ็นซึ่งเทคโนโลยีประจำการอยู่ในไม้ยอดฮิตอย่าง Arcsaber 11 Pro มาให้ด้วย
.
นอกจากนั้นก้านก็ยังคงใช้คาร์บอนไฟเบอร์เกรดสูงมากอย่าง HM Graphite, Ultra PE Fiber หรือเส้นใยโพลิเมอร์ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน และ เทคโนโลยีสำคัญ 2G-Namd™ FLEX FORCE ที่ทำให้ก้านดีดไวและคืนตัวไวเป็นพิเศษ
.
ไม้รุ่นนี้มีนักกีฬาในระดับ TOP ของโลกเลือกอย่าง วิว กุลวุฒิ นักแบดมินตันสุดฮอตของไทยเรา ที่พึ่งคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์มาหมาดๆ
.
.
2.การใช้งานจริง
2.1 ลูกดาด
สำหรับเรื่องลูกดาดในไม้ทั้ง 2 รุ่น คงเอาไปเปรียบเทียบเรื่องความเร็วกับไม้สายสปีดยังไม่ได้ แต่ถ้าให้เทียบกับไม้สายคอนโทรลก็ถือว่าพอไหวอยู่ เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นไม้สายบุก แต่เราพบว่าไม้ทั้งคู่มีความคล่องตัวอยู่พอสมควร
.
ในการใช้งานจริงไม้ทั้งคู่มีความคล่องตัวมากกว่าที่เราคิดไว้ในครั้งแรก พอเอามาใช้ในการลงเกมจริงก็ถือว่าสามารถเล่นลูกดาดได้ดีเกินกว่ามาตรฐานของไม้บุกหัวหนักตัวอื่นๆ ที่เคยใช้มา โดยเฉพาะ Astrox 100zz จะให้ความคล่องตัวที่มากกว่าเล็กน้อย
ถ้าจะให้คะแนนโดยยึดจากไม้สายสปีดที่ได้เต็ม 10 เราจะขอให้คะแนนไม้ทั้งคู่ดังนี้
Astrox 88D Pro Gen 3 – 7/10
Astrox 100zz – 7.5/10
.
2.2 เกมรับ
ในเกมรับจะแบ่งออกเป็นการรับกระแทกหรือการรับชน ไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ดีทั้งคู่ แต่อาจจะไม่คล่องตัวเท่าไม้สายสปีดและไม้สาย control แต่ก็ถือว่ามีความคล่องตัวดีมากถ้าเทียบกับไม้สาบบุกด้วยกัน
.
การพลิกหน้าไม้ค่อนข้างดีทั้งคู่ แต่หากโดนลูกจิ้มใส่ต่อเนื่องก็จะเริ่มยกไม้ช้า สะบัดไม่ค่อยทัน ซึ่งตรงจุดนี้เราพบว่า Astrox 100zz พอจะช่วยแก้ไขตรงจุดนี้ได้ดีกว่าเล็กน้อย แม้ในที่สุดก็มักจะเสียเปรียบในลูกนี้เหมือนกัน การเอาตัวรอดจากการโดนจิ้มเข้าตัวจะสู้ไม้สายสปีดหรือคอนโทรลยังไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าผู้ใช้จะมีข้อมือที่แข็งแรงมากก็จะไม่เจอกับปัญหานี้
.
การรับวางไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ดีการให้น้ำหนักมือไม่ยาก ลูกก็ค่อนข้างมีความแม่นยำ ที่สำคัญเราจะรู้สึกว่าหน้าไม้ของทั้งคู่ค่อนข้างจะนิ่งมาก
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนไม้ทั้งคู่ดังนี้
Astrox 88D Pro Gen 3 – 7/10
Astrox 100zz – 7.5/10
.
2.3 ลูกที่ต้องอาศัย น้ำหนักมือ เช่นลูกหยอด ลูกเสิร์ฟ ลูกตัด ลูกฟัน
เนื่องจากไม้ทั้งคู่เป็นไม้ก้านแข็ง ทำให้การให้น้ำหนักมือหรือการผ่อนน้ำหนักมือในลูกต่างๆ เช่นลูกหยอด ลูกตัด ลูกฟัน หรือลูกเสิร์ฟก็ทำได้ไม่ยาก มีความแม่นยำ และที่สำคัญคือเราสามารถปรับน้ำหนักมือได้ไม่ยากทั้ง 2 ไม้
แต่จุดแตกต่างของทั้ง 2 ไม้นี้เราพบว่าในการเล่นลูกตัด ลูกฟัน Astrox 88D Pro Gen 3 ให้วิถีลูกที่สั้นและจิกกว่าเล็กน้อย
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนไม้ทั้งคู่ดังนี้
Astrox 88D Pro Gen 3 – 8.5/10
Astrox 100zz – 8/10
.
2.4 ลูกตบ เเละลูกเคาะ
สำหรับลูกตบ ลูกเคาะ ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นมากๆ ของทั้ง 2 ไม้ สามารถบุกได้ดีมากๆ ทั้งคู่ ซึ่งก็ดีกว่าไม้สาย Power หลายๆรุ่น ไม้ทั้งคู่ให้พลังตบที่มีพลังมาก จนทุกคนที่ลองปฏิเสธไม่ได้
.
แต่จุดที่แตกต่างกันของไม้ทั้ง 2 ในเกมบุกจากความคิดเห็นของคนที่ทำหน้าที่รับ พบว่าวิถีลูกของ Astrox 88D Pro Gen 3 จะจิกกว่า Astrox 100zz เล็กน้อยและ Speed ลูกที่พุ่งมาจาก Astrox 88D Pro Gen 3 ก็จะมีความแรงกว่า Astrox 100zz เล็กน้อยเช่นกัน อาจจะมาจากตัวช่วยอย่าง CONTROL-ASSIST BUMPER ที่ถ่วงน้ำหนักที่หัวไม้ให้นิดๆ และเทคโนโลยี 2G-Namd™ FLEX FORCE ที่ช่วยกดวิถีลูกให้จิกลงเล็กน้อย
.
แต่เรามีข้อสังเกตุว่าถ้าจะให้ได้ประสิทธิภาพจากไม้ทั้งคู่ ควรจะต้องให้เวลาปรับตัวกับไม้สักนิดนึงเพราะบางคนอาจจะต้องปรับตัวกับตำแหน่ง sweet spot ของไม้ทั้งคู่
.
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนไม้ทั้งคู่ดังนี้
Astrox 88D Pro Gen 3 – 10/10
Astrox 100zz – 9.5/10
.
2.5 ลูกเซฟ ลูกเคลียร์จากแดนหลัง
สำหรับลูกเซฟและลูกเคลียร์จากแดนหลังไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ค่อนข้างดี แต่จากการลงเกมจริงเราพบว่า Astrox 88D Pro Gen 3 เวลาเซฟหรือเคลียร์ลูกจากท้ายคอร์ดจะออกแรงน้อยกว่า Astrox 100zz เล็กน้อย และ ยิ่งเห็นผลมากเวลาเราต้องไปแก้ลูกหรือต้องเคลียร์ลูกที่กระชากมาเร็วๆ Astrox 88D Pro Gen 3 จะทำได้ง่ายกว่า Astrox 100zz
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนไม้ทั้งคู่ดังนี้
Astrox 88D Pro Gen 3 – 8.5/10
Astrox 100zz – 8/10
.
.
3. ความแตกต่างของไม้ทั้งสองรุ่น ควรเลือกไม้ตัวไหนดี?
สำหรับจุดแตกต่างกันของไม้ทั้งคู่ที่เราเห็นชัดๆ เหมือนที่หลายๆคนรู้อยู่แล้วก็คือ
3.1 Feeling ในการตี Astrox 100zz ให้ความรู้สึกที่กระด้างกว่า Astrox 88D Pro Gen 3 ค่อนข้างจะชัดเจน ส่วน Feeling ของ Astrox 88D Pro Gen 3 จะออกแนวที่กระด้างน้อยกว่านิดๆ นุ่มมากกว่า แต่ไม้ทั้งคู่ให้ความรู้สึกถึงแรงปะทะเมื่อไม้กระทบลูกขนไก่ได้พอๆกัน ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็น character ของทั้ง 2 รุ่นนี้ที่หลายๆคนชอบมาก
3.2 ลูกเซฟลูกเคลียร์จากแดนหลัง Astrox 88D Pro Gen 3 เองก็ทำได้ดีกว่าง่ายกว่า Astrox 100zz เช่นกัน
3.3 ลูกดาด Astrox 100zz เองก็ทำได้ดีกว่าง่ายกว่า Astrox 88D Pro Gen 3 เล็กน้อย
.
สรุป 
Astrox 100zz – เหมาะกับมือระดับกลางขึ้นไปที่มีทักษะ และมีแรงพอสมควร ที่ชอบไม้บุกที่บุกหนักๆ บุกเน้นๆ คนชอบเล่นบุกจากแดนหลัง ชอบไม้บุกที่ดาดได้ดีพอสมควรเลย
.
Astrox 88D Pro Gen 3 – เหมาะกับมือระดับกลางขึ้นไปที่มีทักษะ และมีแรงพอสมควรเช่นกัน ชอบไม้บุกที่บุกหนักๆ บุกเน้นๆ คนชอบเล่นบุกจากแดนหลังเป็นพิเศษ และชอบไม้ที่ประหยัดแรงหน่อยเวลาเซฟ
.
ทางทีมงานจะบอกว่าไม้ทั้งคู่ค่อนข้างใกล้เคียงกันมากจริงๆ ลองดูว่าเราต้องการเน้นจุดไหนเป็นพิเศษจริงๆ และ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเองเท่านั้น คนที่มีความแข็งแรง และ ทักษะในการตีที่แตกต่างกันออกไปก็อาจจะเห็นต่างจากนี้ก็ได้ แต่ที่แน่ๆคือทั้ง 2 รุ่นนี้บุกได้ดีมากจริงๆ
.
เรามีข้อแนะนำอีกนิดว่าไม้ทั้งคู่ เราจะไม่ค่อยแนะนำสำหรับมือใหม่เลยเพราะคุณจะใช้มันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และ อาจจะเจอปัญหาอาการเมื่อยล้าปวดไหล่หรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บตามมาได้
.
ดังนั้นเหมือนที่เราย้ำทุกครั้งว่า ไม้ที่ดีที่สุดก็คือไม้ที่เราตีแล้วเข้ามือที่สุด และตรงตามฟิลลิ่งที่เราชอบมากที่สุดนั่นเอง เพราะทำให้เวลาเราเอามาเล่นมันจะช่วยเพิ่มความสนุกให้กับเรา ไม่ใช่เพิ่มภาระให้กับเรา
.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

เปรียบเทียบไม้แบดมินตัน Halbertec7000 vs Arcsaber 7 Pro

Halbertec7000 VS Arcsaber 7 Pro ไม้แบดมินตันตัว Top สาย Control / All Around ไม้ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด?
.
คำถามยอดฮิตสำหรับไม้ทั้ง 2 รุ่นนี้ หากนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว รุ่นไหนดีกว่า, ซื้อรุ่นไหนดี, รุ่นไหนบุกหนักกว่า, รุ่นไหนรับดีกว่า, รุ่นไหนวางลูกได้แม่นยำกว่า
.
ไม้ทั้ง 2 ตัวถือว่าเป็นไม้ระดับ Top สาย Control หรือสาย All Around ที่ราคา 5 พันนิดๆ ทั้งคู่ ซึ่งคาแรคเตอร์ของไม้สายนี้ เป็นไม้ที่บุกได้ดี-เกมรับก็ทำได้คล่องแคล่ว แต่ในเกมบุกก็อาจจะเป็นรองไม้ที่เกิดมาเพื่อเป็นสายบุกและในเกมรับ-เกมเร็วก็อาจจะยังเสียเปรียบไม้ที่เกิดมาเป็นไม้สายสปีด จัดว่าเป็นไม้ที่อยู่ในทางสายกลาง ก็เลยไปไม่สุดสักทางนั่นเอง ไม้สายคอนโทรลนี้ก็มีจุดเด่นที่สามารถนำมาเล่นเกมได้หลากหลาย และทั้ง Halbertec7000 และ Arcsaber 7 Pro ก็มีคาแรคเตอร์แบบนั้น
.
.
1. เปรียบเทียบวัสดุ
ไม้ทั้งสองตัวผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เกรดสูงหรือแทบจะสูงที่สุดของแต่ละแบรนด์เลือกใช้ ทำให้ไม้ทั้ง 2 ตัวมีการดีดตัวและการคืนตัวที่ดีมาก
.
ทำให้การส่งลูกขนไก่ออกไปของไม้ทั้งสอง ถือว่าทำความเร็วและ Speed ต้นได้ไม่แพ้ไม้สายสปีดเลย
.
นอกจากนี้ตัวเฟรมของไม้ทั้ง 2 ตัวก็ยังป้องกันการบิดตัวในขณะที่ไม้กระทบลูกหรือขณะที่คืนตัวกลับได้รวดเร็ว ทำให้เราสามารถตีลูกต่อไปได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
.
แม้ว่า Arcsaber 7 Pro จะออกมาก่อน Halbertec7000 แต่ว่ากันในเรื่องของวัสดุก็ถือว่าไม้ทั้งทั้งสองใช้วัสดุเกรดสูงมากๆทั้งคู่ ใช้เทคโนโลยีล่าสุด และ ดีที่สุดของทั้งสองแบรนด์
.
สรุปได้ว่าในเรื่องวัสดุไม้ทั้ง 2 ตัวก็ถือว่าสูสีและใกล้เคียงกันมาก
.
.
2. เรื่องการใช้งาน
เนื่องจากไม้ทั้งคู่เป็นไม้สายคอนโทรลดังนั้นจึงจะเน้นไปที่ การควบคุมและความแม่นยำเวลาใช้งานเป็นหลัก และลำดับต่อมาก็จะมาดูเรื่องเกมบุกและเกมรับ
.
ในเรื่องของการคอนโทรลและความแม่นยำในการวางลูกเราพบว่า Arcsaber 7 Pro สามารถทำได้ดีกว่า Halbertec7000 เล็กน้อยในส่วนนี้อาจจะมาจากเหตุผลที่ก้านของArcsaber 7 Pro มีความแข็งกว่า Halbertec7000 เล็กน้อย เพราะก้านที่แข็งกว่าจะให้ความง่ายในการให้น้ำหนักมือในการวางลูกมากกว่า
.
ต่อมาในส่วนของลูกเซฟ ลูกเคลียร์จากแดนหลัง เราพบว่า Halbertec7000 สามารถทำได้ดีกว่า Arcsaber 7 Pro อยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะก้านที่อ่อนกว่าเล็กน้อยและให้แรงดีดดีมากๆ ทำให้เวลาเซฟและเวลาเคลียร์ลูกจากแดนหลังไม่ต้องออกแรงเยอะมากลูกก็สามารถไปถึงท้ายคอร์ทได้ง่ายกว่า
.
ในเรื่องเกมบุก ไม้ทั้งคู่ให้น้ำหนักลูกตบที่ค่อนข้างน่าพอใจทั้งคู่ แต่จะมีต่างกันบ้างเล็กน้อยในเรื่องวิถีของลูกทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีและท่าทางในการตบของแต่ละคนด้วย
.
แต่ในเรื่องน้ำหนักการบุกของไม้ทั้งคู่คงจะนำไปเปรียบเทียบกับไม้สายบุกเลยไม่ได้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะห่างกันเยอะถือว่าใกล้เคียงเลยทีเดียว
.
มาถึงในเรื่องของเกมรับเช่นการรับชน รับวาง ไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ดีทั้งคู่ การให้น้ำหนักมือสำหรับไม้ทั้งสองตัวไม่ยากเลยและหน้าไม้ทั้ง 2 ตัวก็ค่อนข้างไวด้วยแต่ Halbertec7000 จะแอบไวกว่า Arcsaber 7 Pro อยู่เล็กน้อย และ แน่นอนว่าในเรื่องความไวของหน้าไม้ของทั้งคู่ก็จะเอาไปเปรียบเทียบกับไม้สายสปีดไม่ได้ แต่ไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ดีน้องๆไม้สายสปีดเช่นกัน
.
.
3. ควรเลือกไม้ไหนดี?
พูดถึงความเหมือนกันของไม้ทั้งคู่มามากแล้วคราวนี้มาดูจุดต่างของไม้ทั้ง 2 ตัวกันบ้าง
.
ไม้ทั้ง 2 ตัวแตกต่างกันชัดเจนอย่างแรก คือความนุ่มมือเวลาไม้ปะทะกับลูกขนไก่เราพบว่า Halbertec7000 จะให้ความรู้สึกนุ่มมือที่มากกว่า Arcsaber 7 Pro
.
ตัว Arcsaber 7 Pro นั้นจะให้ความรู้สึกที่กระด้างกว่าแต่ก็ไม่ใช่ว่าแข็งกระด้างจนสะเทือนมาถึงแขนและไหล่ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความรู้สึกเวลาไม้กระทบลูกขนไก่ เราจะรับรู้ถึง Impact ของไม้ที่กระทบกับลูกได้มากกว่า Halbertec7000 นั่นเอง
.
ซึ่งตรงนี้จะสรุปว่า Halbertec7000 และ Arcsaber 7 Pro ไม้ไหนดีที่สุดแบบฟันธงให้เลือกเลย ก็คงไม่ได้เพราะว่าแต่ละคนจะชอบฟีลของไม้คนละแบบกันบางคนชอบแบบนุ่มมือก็เลือก Halbertec7000 แต่บางคนชอบฟีลที่แข็งนิดๆ กระด้างนิดๆ ให้ความรู้สึกได้เมื่อไม้กระทบลูกขนไก่ก็เลือก Arcsaber 7 Pro
.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos

เปรียบเทียบไม้แบดมินตัน Halbertec9000 vs Arcsaber 11 Pro

หลายๆคนเคยถามกันเข้ามาเยอะมากๆ ว่าอยากให้เปรียบเทียบ Lining Halbertec 9000 VS Yonex Arcsaber 11 Pro ทั้งสองไม้ ตัวไหนดีกว่ากัน เลือกอะไรดี วันนี้ทีมงาน Jongnow เลยมาช่วยไขคำตอบนี้ให้ ไปติดตามกันได้เลย
.
ไม้แบดมินตันทั้งสองรุ่นเป็นไม้สายคอนโทรลหรือสาย All Around ตัว Top สุดของทั้งสองแบรนด์ เป็นไม้ที่มีนักกีฬาระดับโลกเลือกใช้มากมาย เช่น ไม้ Halbertec 9000 ที่ช่วงนี้กระแสแรงสุดๆ โดยมีนักกีฬาดังๆ อย่าง ยูตะ วาตานาเบะ เลือกใช้ และ Arcsaber 11 Pro ที่กระแสไม่เคยตก แม้จะออกมานานพอสมควรแล้ว โดยมีนักกีฬาดังๆ เลือกใช้มากมาย เช่น ปอป้อ ทรัพย์สิรี, Zheng Siwei, Aya Ohori
.
ในการทดสอบครั้งนี้ เราจะแบ่งกลุ่มที่ทดสอบออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เป็นมือใหม่แต่มีทักษะในการตีมาบ้างแล้ว และกลุ่มที่เป็นมือระดับกลางที่ตีก๊วนทั่วๆ ไป หรือเรียกว่ามือก๊วน ที่มีทักษะพอสมควร เราขอเรียกสั้นๆ ว่าเป็นกลุ่มมือใหม่และมือก๊วน
.
.
1.เรื่องวัสดุ
ไม้แบดมินตันทั้งสองรุ่นผลิตมาจากคาร์บอนไฟเบอร์เกรดสูงมาก (วัสดุหลักคือ HM Graphite) หรือเรียกได้ว่าใช้วัสดุที่ดีที่สุดที่แต่ละแบรนด์จะเลือกนำมาผลิตไม้ทั้งสองรุ่น
.
ดังนั้นไม้แบดมินตันทั้งสองก็จะมีคุณสมบัติที่คล้ายกันอยู่คือตัวเฟรมจะให้ความมั่นคงที่ดีมาก โดยจะไม่มีการส่ายไปมาหรือมีการส่ายน้อยมาก ส่งผลให้เวลาลูกที่ออกจากหน้าไม้ ลูกจะมีวิถีที่คงที่ และไม้แบดมินตันทั้งสองรุ่น ยังมีการใส่โฟมลดแรงสะเทือนเข้าไปที่ด้านในของเฟรมไม้ด้วย
.
ส่วนก้านก็จะเป็นก้านที่ค่อนข้างแข็งทั้งคู่ ให้แรงดีดที่รุนแรงและมีการคืนตัวไว ส่งผลให้ไม้แบดมินตันทั้งสองรุ่นสามารถสร้างเกมบุกได้ดีเกินมาตรฐานของไม้สายคอนโทรลทั่วไป แต่ก็อาจจะไม่เทียบเท่ากับไม้หัวหนักสายบุก
.
สำหรับเรื่องวัสดุจะมีจุดที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เช่น Yonex จะมีการใช้รูตาไก่แบบแผงร่วมด้านบนที่เรียกว่า CONTROL-ASSIST BUMPER ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักหัวไม้และช่วยจัดระเบียบเส้นเอ็น ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะมีผลในการทดสอบซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป
.
.
2.การใช้ตีในเกมจริง
2.1 ลูกดาด
สำหรับลูกดาด ไม้ทั้งคู่ก็ให้ความรวดเร็วและคล่องตัว และการดีดลูกออกไปได้ค่อนข้างดีทั้งคู่ แต่ก็อาจจะไม่เร็วเทียบเท่ากับไม้สายสปีด แต่ก็ถือว่าใกล้เคียง สำหรับผู้เล่นในกลุ่มมือใหม่และมือก๊วนจะชอบ Lining Halbertec 9000 มากกว่าเล็กน้อย เพราะไม่ต้องออกแรงมาก หน้าไม้จะไวกว่าเล็กน้อย แต่ต้องขอย้ำว่าค่อนข้างใกล้เคียงกันจริงๆ จะแตกต่างกันเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น
.
ดังนั้นเราขอให้คะแนนทั้งคู่แบบเฉลี่ยดังนี้
-Halbertec 9000: 8.5/10
-Arcsaber 11 Pro: 8/10
.
2.2 เกมรับ
ในเกมรับจะแบ่งออกเป็นการรับกระแทกหรือการรับชน ไม้ทั้งคู่สามารถทำได้ดีมาก ไม่แพ้ไม้สายสปีด การพลิกหน้าไม้ค่อนข้างไวทั้งคู่ เพราะหัวไม้ไม่ได้หนักมาก ทำให้ไม่เสียเวลาในการพลิกไม้
การรับวางไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ดี การให้น้ำหนักมือไม่ยาก ลูกก็ค่อนข้างมีความแม่นยำ ที่สำคัญเราจะรู้สึกว่าหน้าไม้ของทั้งคู่ค่อนข้างนิ่งมาก สมกับที่เป็นไม้สาย Control ตัว TOP
.
แต่จะเริ่มมีความต่างเล็กน้อยเมื่อเราต้องการรับดีดแรงๆ ให้พ้นมือหน้า เราพบว่าในกลุ่มตัวอย่างทั้งสองของเราเห็นต่างกันมาก แต่ก็จะขอสรุปง่ายๆ คือ ถ้าคนแรงข้อมือไม่มากจะชอบ Halbertec 9000 มากกว่า ส่วนผู้หญิงหรือผู้ชายแรงข้อมือดีๆ จะชอบ Arcsaber 11 Pro มากกว่า เพราะดีดลูกออกไปได้พุ่งและแรงกว่าเล็กน้อย อาจจะมาจากก้านที่ Arcsaber 11 Pro จะแข็งกว่าเล็กน้อย
.
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนมาทั้งคู่ดังนี้
-Halbertec 9000 – 8.5/10
-Arcsaber 11 Pro – 8.5/10
.
2.3 ลูกที่ต้องอาศัยน้ำหนักมือ เช่น ลูกหยอด ลูกเสิร์ฟ ลูกตัด ลูกฟัน
เนื่องจากไม้ทั้งคู่เป็นไม้ก้านแข็ง ทำให้การให้น้ำหนักมือหรือการผ่อนน้ำหนักมือในลูกต่างๆ เช่น ลูกหยอด ลูกตัด ลูกฟัน หรือลูกเสิร์ฟก็ทำได้ไม่ยาก และที่สำคัญคือเราสามารถปรับน้ำหนักมือได้ไม่ยากทั้ง 2 ไม้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของไม้สาย Control ระดับ TOP
.
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนมาทั้งคู่ดังนี้
-Halbertec 9000 – 9/10
-Arcsaber 11 Pro – 9/10
.
2.4 ลูกตบ และลูกเคาะ
สำหรับลูกตบแล้วโดยรวมจากการทดสอบของทั้งสองกลุ่มของเราพบว่าไม้ทั้งคู่สามารถบุกได้ดีมาก ซึ่งก็ดีกว่าไม้สาย All Around หลายๆ ตัวด้วย แต่จุดที่แตกต่างกันของไม้ทั้ง 2 ในเกมบุกจากมุมมองของทั้งสองกลุ่มที่ทำหน้าที่รับลูกตบของแต่ละไม้ พบว่าวิถีลูกของ Arcsaber 11 Pro จะจิกกว่า Halbertec 9000 เล็กน้อย และ Speed ลูกที่พุ่งมาจาก Arcsaber 11 Pro ก็จะมีความแรงกว่า Halbertec 9000 เล็กน้อยเช่นกัน อาจจะมาจากตัวช่วยอย่าง CONTROL-ASSIST BUMPER ของ Arcsaber 11 Pro ที่ถ่วงน้ำหนักที่หัวไม้ให้นิดๆ
.
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนมาทั้งคู่ดังนี้
-Halbertec 9000 – 8/10
-Arcsaber 11 Pro – 9/10
.
2.5 ลูกเซฟ ลูกเคลียร์จากแดนหลัง
สำหรับลูกเซฟและลูกเคลียร์จากแดนหลังไม้ทั้งคู่ก็สามารถทำได้ค่อนข้างดี แต่จากการทดสอบของทั้งสองกลุ่ม เราพบว่า Halbertec 9000 เวลาเซฟหรือเคลียร์ลูกจากท้ายคอร์ทจะออกแรงน้อยกว่า Arcsaber 11 Pro เพราะว่าก้านของ Halbertec 9000 จะอ่อนกว่า Arcsaber 11 Pro เล็กน้อย และยิ่งจะเห็นผลมากเวลาเราต้องไปแก้ลูกหรือต้องเคลียร์ลูกที่กระชากมาเร็วๆ Halbertec 9000 จะทำได้ง่ายกว่า Arcsaber 11 Pro ค่อนข้างชัดเจน
.
ดังนั้นเราจะขอให้คะแนนมาทั้งคู่ดังนี้
-Halbertec 9000 – 9/10
-Arcsaber 11 Pro – 8/10
.
.
3.ความแตกต่างของไม้ทั้งคู่และการเลือกใช้ไม้
สำหรับจุดแตกต่างกันของไม้ทั้งคู่ที่เราเห็นชัดๆ ก็คือ
.
3.1 Feeling
Halbertec 9000 ให้ความรู้สึกที่นุ่มมือกว่า Arcsaber 11 Pro ค่อนข้างชัดเจน ส่วน Feeling ของ Arcsaber 11 Pro จะออกแนวกระด้างนิดๆ ให้ความรู้สึกถึงแรงปะทะเมื่อไม้กระทบลูกขนไก่ ซึ่งตรงจุดนี้จะแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนชอบไม้ Feeling นุ่มๆ แต่บางคนชอบไม้ที่เวลาตีแล้วให้ Feeling ที่รู้สึกได้ถึงแรงปะทะ
.
3.2. เกมบุก
Arcsaber 11 Pro สามารถทำเกมบุกได้หนักกว่า Halbertec 9000 อย่างชัดเจน
.
3.3 ลูกเซฟและลูกเคลียร์จากแดนหลัง
Halbertec 9000 ทำได้ดีกว่าและง่ายกว่า Arcsaber 11 Pro อย่างรู้สึกได้เช่นกัน
.
.
ไม้ตัวไหนเหมาะกับใคร?
Halbertec 9000
เหมาะกับมือระดับกลางขึ้นไป หรือมือใหม่ที่มีทักษะมาบ้างแล้วและมีแรงพอสมควร ที่ชอบฟิลของไม้ที่ตีแล้วนุ่มมือตีสบาย และมีความคล่องตัว เล่นเกมได้หลากหลายทั้งเกมบุกและรับ
.
Arcsaber 11 Pro
เหมาะกับมือระดับกลางขึ้นไปที่ชอบเล่นเกมหลากหลาย ทั้งเกมบุกและเกมรับ การวางลูกเพื่อหาจังหวะ และจะเน้นที่เกมบุกเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็ยังชอบความรู้สึกถึงแรงปะทะเมื่อไม้กระทบลูกขนไก่ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นฟิลลิ่งที่ดิบมากๆ
.
ข้อควรระวัง❗️ไม้ทั้งคู่ เราจะไม่ค่อยแนะนำสำหรับมือใหม่เลยเพราะคุณอาจจะใช้มันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าคุณจะซื้อมาใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นจากพวกเราเท่านั้น
.
ดังนั้นเหมือนที่เราย้ำทุกครั้งว่า ไม้ที่ดีที่สุดก็คือไม้ที่เราตีแล้วเข้ามือที่สุด และตรงตามฟิลลิ่งที่เราชอบมากที่สุดนั่นเอง เพราะทำให้เวลาเราเอามาเล่น มันจะช่วยเพิ่มความสนุกให้กับเรา ไม่ใช่เพิ่มภาระให้กับเรา
.
การรีวิวในโพสนี้มาจากความเห็นของทีมงานที่ได้ทำการทดสอบไม้ ดังนั้นไม้ที่ดีที่สุดก็คือไม้ที่เราตีแล้วเข้ามือที่สุดตรงตามฟีลที่เราชอบมากที่สุดนั่นเอง
.

Jongnow ศูนย์รวมของคนรักกีฬา ให้คุณเล่นกีฬาที่คุณรักได้สนุกขึ้น

ติดตามช่องทางข่าวสารเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Website: jongnow.com/home

Facebook: Facebook

Youtube: Jongnow TH – YouTube

Tiktok: Jongnow TH (@jongnow) | TikTok

Instagram: @jongnowth • Instagram photos and videos